ร้อยตรีจักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวภายหลังลงพื้นที่พูดคุยกับเกษตรกรร่วมกับ นายพงษ์ศักดิ์ วรวงศ์ พาณิชย์จังหวัดร้อยเอ็ด ณ สหกรณ์การเกษตรธวัชบุรี จำกัด อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด ว่าจากการติดตามสถานการณ์ปุ๋ยราคาได้ปรับลดลงมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่กลางปี 2565 เป็นต้นมา โดยเฉพาะปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) ซึ่งเป็นแม่ปุ๋ยที่ใช้กันมากที่สุด ราคาเฉลี่ยลดลง 27% และปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต (21-0-0) ซึ่งเป็นปุ๋ยไนโตรเจนอีกชนิดหนึ่ง ราคาเฉลี่ยลดลง 31% และคาดว่าราคาปุ๋ยจะลดลงอีกตามแนวโน้มราคาตลาดโลกที่ลดลง อีกทั้งการที่กระทรวงพาณิชย์เร่งรัดให้มีการนำเข้าและเชื่อมโยงการซื้อขายปุ๋ยจากประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ เช่น ซาอุดิอาระเบีย ประกอบกับปริมาณการใช้ปุ๋ยในภาพรวมที่ลดลง ทำให้มั่นใจว่าปุ๋ยมีเพียงพอและมีการแข่งกันด้านราคา ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร
รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ได้แจ้งให้เกษตรกรทราบว่ากรมการค้าภายในร่วมกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมส่งเสริมการเกษตร และโรงงานปุ๋ย ส่งเสริมให้ “สถาบันเกษตรกร” ไม่ว่าจะเป็นสหกรณ์ฯ วิสาหกิจชุมชน เกษตรแปลงใหญ่ หรือศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน รวมกลุ่มกันสั่งซื้อปุ๋ยตรงจากโรงงาน ซึ่งเป็นช่องทางที่จะช่วยให้เกษตรกรได้เข้าถึงปุ๋ยในราคาที่ประหยัดขึ้น ตามแนวคิด “จับคู่ปุ๋ย ซื้อตรง ถูกเงิน ถูกใจ” และเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงินกรมฯ ได้ขอความร่วมมือธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ให้พิจารณาสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้กับสหกรณ์ฯ ด้วย
ทั้งนี้ เกษตรกรที่สนใจสามารถรวมกลุ่มกันซื้อปุ๋ย โดยรวบรวมความต้องการของสมาชิกสถาบันเกษตรกร และสั่งซื้อปุ๋ยจากโรงงาน ตามรายชื่อและเบอร์โทรที่กรมการค้าภายในได้รวบรวมและเผยแพร่บนเว็บไซต์กรมฯ (www.dit.go.th) กรณีมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการรวมกลุ่มเป็นสถาบันเกษตรกรสามารถสอบถามได้จากเกษตรจังหวัดหรือสหกรณ์จังหวัดในพื้นที่