สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 19 ก.พ. 66

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอุณหภูมิลดลง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนอง

ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกปานกลางถึงหนักบริเวณ จ.พัทลุง (37 มม.) จ.สุราษฎร์ธานี (35 มม.) และ จ.กระบี่ (29 มม.)

น้ำใช้การแหล่งน้ำทุกขนาด 34,840 ล้าน ลบ.ม. (60%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 27,845 ล้าน ลบ.ม. (58%)

คุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลัก อยู่ในเกณฑ์ปกติทุกสถานี

เฝ้าระวังระดับน้ำทะเลหนุนสูงในพื้นที่ลุ่มต่ำริมปากแม่น้ำ
โดยกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) คาดการณ์น้ำทะเลหนุนสูง ในช่วงวันที่ 19–22 ก.พ. 66 โดยระดับน้ำทะเลหนุนจะขึ้นสูงสุดในวันที่ 20 ก.พ. 66 ซึ่งอาจก่อให้เกิดน้ำเค็มรุกตัวเข้าสู่บริเวณปากแม่น้ำ ในพื้นที่ลุ่มต่ำริมชายฝั่งทะเลอ่าวไทย ส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำใช้อุปโภค-บริโภค และการใช้น้ำเพื่อการเกษตร

กอนช. เน้นย้ำหน่วยงานเร่งบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเพื่อรองรับฤดูแล้งอย่างต่อเนื่อง

• กอนช. ติดตามกรมชลประทานดำเนินงานก่อสร้าง ประตูระบายน้ำบ้านหาดแตง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เนื่องจากสภาพลำน้ำคลองรับร่อ จะไหลผ่านไปบรรจบกันกับคลองท่าแซะ เมื่อเกิดฝนตกเป็นจำนวนมากปริมาณน้ำจากคลองดังกล่าวจะไหลเข้าท่วมพื้นที่ตอนล่าง ประกอบกับมีพื้นที่การเกษตรเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภคและการเกษตรกรรมในช่วงฤดูแล้ง จึงได้ดำเนินการก่อสร้างโครงการประตูระบายน้ำ เพื่อใช้ในการบรรเทาปัญหาทั้งอุทกภัยและภัยแล้ง หากดำเนินการแล้วเสร็จสามารถระบายน้ำได้ 1,860 ลบ.ม./วินาที และเป็นแหล่งน้ำต้นทุนสำหรับการเกษตรพื้นที่ชลประทาน4,893 ไร่ สนับสนุนน้ำเพื่ออุปโภค-บริโภค จำนวน 3,500 ครัวเรือน ประชากรได้รับประโยชน์ 10,000 คน

• กอนช. เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันบริหารจัดการน้ำ และควบคุมค่าความเค็มบริเวณปากแม่น้ำ รวมถึงในพื้นที่ลุ่มต่ำริมชายฝั่งทะเลอ่าวไทย และเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ดังกล่าว พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำเค็มรุกอย่างต่อเนื่อง เพื่อแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำในช่วงน้ำทะเลหนุนตลอดช่วงฤดูแล้งนี้