วันที่ 30 มกราคม 2566 เวลา ณ บริเวณก่อสร้างโครงการประตูระบายน้ำห้วยกำแพง ตำบลบึงกาฬ อำเภอเมือง จังหวัดบึงกาฬ นายปริญญา คัชมาตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 5 พร้อมด้วย นายประชา เกษลี ผู้อำนวยการโครงการชลประทานบึงกาฬ และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการก่อสร้างโครงการประตูระบายน้ำห้วยกำแพง โดยมีผู้ควบคุมงานก่อสร้างคอยให้ข้อมูลต่าง ๆ สำหรับจังหวัดบึงกาฬเป็นจังหวัดหนึ่งที่ประสบปัญหาภัยแล้ง อุทกภัย และปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคซ้ำซากในหมู่บ้านที่ห่างไกลแหล่งน้ำ ในช่วง 16 ปีที่ผ่านมา จังหวัดบึงกาฬมีพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมทั้งหมดเท่ากับ 880.27 ตารางกิโลเมตร และในรอบ 10 ปี มีพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้งทั้งหมดเท่ากับ 237.264 ตร.กม. อีกทั้งระดับน้ำในแม่น้ำโขงลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงฤดูแล้ง ขณะที่ความต้องการใช้น้ำรวมอยู่ที่ 92.529 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี
โดยมีความต้องการน้ำเพื่อการเกษตรในเขตชลประทาน 0.825 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปีและนอกเขตชลประทาน 8.494 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ส่วนความต้องการน้ำอุปโภคบริโภคพบว่า ความต้องการน้ำอุปโภคบริโภคในปัจจุบัน 20.274 ล้านลูกบาศก์เมตร ในอนาคต 20 ปีข้างหน้าคาดว่าจังหวัดบึงกาฬจะมีความต้องการใช้น้ำรวม 22.715 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี เพิ่มขึ้น 2.441 ล้านลูกบาศก์เมตร จากการศึกษาเบื้องต้นพบว่า หากมีการพัฒนาศักยภาพของบึง หนอง แหล่งน้ำต่าง ๆ ในจังหวัดบึงกาฬอย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยกักเก็บน้ำในช่วงฤดูฝน ให้เพียงพอต่อความต้องการใช้น้ำในภาคส่วนต่าง ๆ ในฤดูแล้งได้ ซึ่งมีการคัดเลือกแหล่งน้ำที่มีศักยภาพสามารถดำเนินการพัฒนาได้ทันที
สำหรับประตูระบายน้ำห้วยกำแพง เป็นโครงการเพื่อบรรเทาอุทกภัยและลดความเสียหายจากอุทกภัยแก่พื้นที่ในเขตอำเภอเมืองบึงกาฬ เช่น ศูนย์ราชการจังหวัดบึงกาฬ พื้นที่หน่วยราชการ พื้นที่เกษตรกรรมข้าวและพืชไร่ เนื่องมาจากระดับน้ำหลากในแม่น้ำโขงสูงในบางปี และไหลย้อนเข้าห้วยกำแพง และเข้ามาในหนองกุดทิง โดยมีระดับสูงกว่าช่วงฤดูแล้งหลายเมตร โดยกรมชลประทานรับผิดชอบก่อสร้างประตูระบายน้ำห้วยกำแพง คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2566 ซึ่งจะช่วยลดความเสียหายที่เกิดขึ้นจากปัญหาน้ำท่วมน้ำหลากได้