+ ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาว ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
+ ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักมากบริเวณ จ.ปัตตานี (184 มม.) จ.นราธิวาส (168 มม.) และ จ.สงขลา (105 มม.)
+ น้ำใช้การแหล่งน้ำทุกขนาด 42,657 ล้าน ลบ.ม. (74%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 34,735 ล้าน ลบ.ม. (73%)
+ คุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลัก อยู่ในเกณฑ์ปกติทุกสถานี
+ กรมเจ้าท่า ให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.สงขลา โดยมอบถุงยังชีพ 50 ชุด น้ำดื่ม 30 แพ็ค (360 ขวด) ให้ประชาชนในพื้นที่ อ.เมือง จ.สงขลา
+ กองทัพบก จัดกำลังพลเข้าดำเนินการพัฒนาขุดลอก เพื่อเร่งระบายน้ำออก ระยะทาง 500 เมตร บนทางหลวงชนบท ที่มีน้ำท่วมขังบริเวณสองฝั่งถนน โคกขี้เหล็ก-เกาะบาตอ ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ทำให้ประชาชนที่สัญจรไปมาไม่สะดวก
+ ปตร.คลองท่าแนะ เนื่องจากระดับน้ำหน้า ปตร.มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น จึงต้องปรับการระบายน้ำจากเดิม 1.00 ม. เพิ่มเป็น 1.50 ม. ต้องเฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่งและท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณ ตำบลชะมวง ตำบลควนขนุน ตำบลโตนดด้วน ตำบลพนมวังก์ ตำบลดอนทราย ตำบลปันแต ตำบลพนางตุง ตำบลมะกอกเหนือ ตำบลแหลมโตนด อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง
+ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ย้ำแผนป้องน้ำท่วมเมืองภูเก็ต พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจติดตามการขับเคลื่อนมติคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) พื้นที่ จ.ปัตตานี พร้อมประชุมติดตามแผนป้องกันอุทกภัย จ.ภูเก็ต สถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคใต้ และการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งหาดทรายแก้ว รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ ตามที่ได้สั่งการให้มีการตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคใต้ ณ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งส่งผลให้สามารถป้องกันและ ลดผลกระทบได้ในหลายพื้นที่โดยเฉพาะ จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยว ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานบูรณาการดำเนินการ โดยมอบจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตาม 13 มาตรการรับมือฤดูฝน อย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งเตรียมการรองรับฤดูแล้งตาม 10 มาตรการควบคู่กันด้วย
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้จังหวัด กรมป้องกันและบรรเทา สาธารณภัย และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำรวจพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วม พื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก พื้นที่เสี่ยงแล้งซ้ำซาก รายงานต่อคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัด และคณะกรรมการลุ่มน้ำ เพื่อใช้วางแผนแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และให้ สทนช. ร่วมกับ จ.ภูเก็ต วางแผนการพัฒนาแหล่งน้ำ รวมถึงการใช้น้ำทางเลือกรองรับความต้องการใช้น้ำให้เพียงพอในอนาคต และให้จังหวัดร่วมกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เร่งรัดแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งหาดทรายแก้ว และฟื้นฟูสภาพชายหาดที่ได้รับความเสียหายโดยเร็ว