กรมทะเลและชายฝั่ง สั่ง!! ฉลามขาวร่วมสนธิกำลังกับทุกภาคส่วน บินลาดตระเวนทางอากาศ

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า ในวันที่ 16 ธันวาคม 2565 ตนได้มอบหมายให้นายวิชัย สมรูป ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 นำเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 4 หน่วยปฎิบัติการพิเศษฉลามขาว กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) สนธิกำลังร่วมกับสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสุราษฎร์ธานี หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สฎ.11 (กงตาก) เจ้าหน้าที่ ตำรวจ กก.5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี อบต.คลองฉนาก กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 ต.คลองฉนาก

ลงพื้นที่โดยการบินลาดตระเวนทางอากาศเพื่อตรวจติดตามและสำรวจพื้นที่ป่าชายเลน หมู่ 6 ต.คลองฉนาก อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี พบว่าพื้นที่ดังกล่าวถูกไถปรับล้มต้นไม้ด้วยเครื่องจักรขนาดใหญ่ สังเกตได้จากร่องรอยรถตีนตะขาบ มีต้นไม้ขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่โค่นล้มกระจายทั่วบริเวณ ยกเว้นไม้ขนาดใหญ่บางส่วนไว้ ได้แก่ ลำพู แสม เป็นต้น ซึ่งต้นไม้ส่วนใหญ่ถูกไถดันล้ม มีลักษณะกิ่งแห้ง เนื้อไม้แตกฉีกไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ โดยพื้นที่บางส่วนถูกปรับสภาพให้โล่งเตียน และมีการทำคันดิน สูง 1.4 เมตร กว้าง 4 เมตร

ทั้งนี้ พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตจำแนกการใช้ประโยชน์ที่ดินพื้นที่ป่าชายเลน ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2530 และวันที่ 22 สิงหาคม 2543 จึงได้ตรวจยึดพื้นที่จำนวนเนื้อที่ 117.20 ไร่ ความเสียหายคิดเป็นมูลค่า 13,868,276 บาท (อัตราไร่ละ 118,330บาท) โดยมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 54 (30)

จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบผู้ใดในที่เกิดเหตุหรือมีบุคคลใดมาแสดงตัวเป็นเจ้าของที่ดินแปลงดังกล่าว รวมถึงยานพาหนะและอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำผิดในพื้นที่แต่อย่างใด จึงมอบหมายให้ นายอุทัย เดชยศดี ผู้อำนวยการศูนย์บริหารจัดการทรัพยากรป่าชายเลนจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นผู้แจ้งความกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองสุราษฎร์ธานี เพื่อดำเนินการสืบสวนดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อไป สำหรับการสำรวจ ตรวจตรา เฝ้าระวัง ป้องกัน อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

โดยบูรณาการอากาศยานร่วมกับภาคพื้นดิน เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่มุ่งเน้นในการเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการป้องกันรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการป้องกันการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ และป่าชายเลน โดยมุ่งผลลัพธ์ให้การบุกรุกพื้นที่ป่าไม้และป่าชายเลนลดลง อย่างไรก็ตาม การดูแลทรัพยากรป่าไม้หรือป่าชายเลนไม่ใช่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นหน้าที่ของทุกๆ คนที่ต้องช่วยกันสอดส่องและเป็นหูเป็นตา

หากพบการกระทำผิดหรือพบผู้บุกรุกและทำลายทรัพยากรป่าไม้หรือป่าชายเลน ให้รีบแจ้งเบาะแสมายังสายด่วนพิทักษ์ป่าและรักษาทะเล โทร. 1362 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อกรม ทช. จะเร่งประสานงานกับหน่วยงานในพื้นที่และดำเนินการตรวจสอบต่อไป “นายอรรถพล กล่าวในที่สุด”