ประเทศไทยตอนบนมีอุณภูมิลดลง กับมีลมแรง ส่วนภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักบางแห่ง
ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณ จ.สุราษฎร์ธานี (99 มม.) จ.นครศรีธรรมราช (86 มม.) และ จ.นราธิวาส (56 มม.)
น้ำใช้การแหล่งน้ำทุกขนาด 43,187 ล้าน ลบ.ม. (75%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 35,237 ล้าน ลบ.ม. (74%)
คุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลัก อยู่ในเกณฑ์ปกติทุกสถานี
กอนช. ติดตามการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคใต้ ตาม 13 มาตรการรองรับฤดูฝนปี 65
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ปรับแผนการระบายน้ำเขื่อนบางลางที่ 8 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน ตามมติคณะทำงานฯ เขื่อนบางลาง เนื่องจากคาดว่า ในวันที่ 11-13 ธ.ค.65 จะมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.นครศรีธรรมราช ตรัง สตูล สงขลา พัทลุง ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส และในวันที่ 17-18 ธ.ค.65 จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง
ปัจจุบันด้านท้ายน้ำยังได้รับผลกระทบอยู่บริเวณ ต.ปะกาฮะรัง อ.เมือง จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นพื้นที่สุ่มต่ำ และบ้านโคกยาร่วง ต.ลิปะสะโง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี และเขื่อนปัตตานีได้มีการหน่วงน้ำเพื่อลดผลกระทบกับท้ายน้ำ คณะทำงานอำนวยการบริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคใต้ กำชับให้ กฟผ. พิจารณาการระบายน้ำจากเขื่อนบางลางให้รอบคอบ เพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ กอนช. ขอให้กรมชลประทานนำเครื่องผลักดันน้ำมาใช้
เร่งระบายน้ำในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบโดยเร็ว และขอให้ กฟผ. พิจารณาการระบายน้ำโดยให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนให้น้อยที่สุด และต้องคำนึงถึงความมั่นคง ปลอดภัยของเขื่อนด้วย และขอให้ประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำให้ประชาชนในพื้นที่รับทราบ
หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา สนับสนุนน้ำดื่มสะอาด จำนวน 400 ขวด โดยมอบประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย จำนวน 30 ครัวเรือน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วน ทั้งนี้ หน่วยได้ติดตาม และเฝ้าระวัง สถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งประสานผู้นำชุมชนตลอดจนหน่วยงานราชการในพื้นที่ เพื่อดำเนินการช่วยเหลือ ฟื้นฟู และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ณ จุดอพยพมัสยิดนูรุลฮีดายะห์ และโรงเรียนตาดีกา บ้านซีเซะ ต.บาโร๊ะ อ.ยะหา จ.ยะลา ปัจจุบัน ระดับน้ำได้ลดลงอยู่ในระดับปกติแล้ว