นักออกแบบไทยเฮ! สภาฯ โหวตเห็นชอบการเข้าเป็นภาคีความตกลงกรุงเฮกฯ

นักออกแบบไทยเฮ! สภาฯ โหวตเห็นชอบการเข้าเป็นภาคีความตกลงกรุงเฮกฯ มุ่งเป้าช่วยคนไทยขอรับความคุ้มครองออกแบบผลิตภัณฑ์ในต่างประเทศ สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

วันที่ 29 พฤศจิกายน 2565 กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เดินหน้าปรับปรุงกฎหมายสิทธิบัตรไทยสำเร็จไปอีกขั้น โดยล่าสุดรัฐสภาให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายดังกล่าวแล้ว ส่งผลให้ไทยเตรียมเข้าเป็นภาคีความตกลงกรุงเฮกว่าด้วยการจดทะเบียนการออกแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมระหว่างประเทศ นักออกแบบไทยขอรับความคุ้มครองการออกแบบผลิตภัณฑ์ในต่างประเทศได้สะดวก รวดเร็ว และประหยัดค่าใช้จ่ายยิ่งขึ้น กระตุ้นการส่งออกและสร้างความเข้มแข็งอุตสาหกรรมด้านการออกแบบไทยในเวทีโลก

นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา ผลักดันการปรับปรุงกฎหมายสิทธิบัตรของไทยให้ทันสมัยตอบโจทย์การค้ายุคปัจจุบัน โดยมีเป้าหมายสำคัญในการเข้าเป็นภาคีความตกลงกรุงเฮกฯ ส่งผลให้คนไทยขอรับความคุ้มครองการออกแบบผลิตภัณฑ์ในต่างประเทศได้สะดวก รวดเร็ว ลดขั้นตอนและค่าใช้จ่าย โดยสามารถยื่นเพียงคำขอเดียวและเลือกรับความคุ้มครองได้ถึง 93 ประเทศทั่วโลก

นอกจากนี้ การเข้าเป็นภาคีความตกลงกรุงเฮกฯ จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มในการส่งออกในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบผลิตภัณฑ์ของคนไทย กระตุ้นให้เกิดการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รวมทั้งสร้างโอกาสทางการค้าให้อุตสาหกรรมสร้างสรรค์และนักออกแบบของไทยให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างยั่งยืน”

นายสินิตย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “การเข้าเป็นภาคีดังกล่าว เป็นการดำเนินการตามแผนงานด้านทรัพย์สิน ทางปัญญาของอาเซียน (ASEAN IPR Action Plan 2016-2025) มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถ ในการแข่งขันทางการค้าในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับการออกแบบในภูมิภาคอาเซียน ประเทศไทยซึ่งถือได้ว่า มีนักออกแบบที่มีศักยภาพมีการผลิตผลงานออกแบบที่มีคุณภาพ อีกทั้งให้ความสำคัญกับการจดทะเบียนผลงานการออกแบบเพื่อขอรับความคุ้มครองสิทธิตามกฎหมาย

โดยมีสถิติการยื่นจดทะเบียนการออกแบบผลิตภัณฑ์ของคนไทยกับกรมทรัพย์สินทางปัญญาสูงถึง 3,500 คำขอต่อปี คิดเป็นสัดส่วน 70% ของคำขอที่ยื่นทั้งหมด ดังนั้นการเข้าเป็นภาคีความตกลงกรุงเฮกฯ จึงนำมาซึ่งโอกาสของนักสร้างสรรค์ไทยที่จะดำเนินธุรกิจในประเทศคู่ค้าสำคัญได้อย่างมั่นใจและต่อยอดความสำเร็จได้ไกลในเวทีโลก”

ด้าน นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า “หลังจากนี้ กรมทรัพย์สินทางปัญญา จะเดินหน้าภารกิจเพื่อรองรับการเข้าเป็นภาคีดังกล่าว ทั้งในด้านการสร้างความรู้ ความเข้าใจให้กับภาคเอกชนและภาคประชาชนให้สามารถใช้ประโยชน์จากการเข้าร่วมภาคีฯ ด้านเทคโนโลยีและสารสนเทศรวมไปถึงการแก้ไขพระราชบัญญัติสิทธิบัตรฯ และการตรากฎหมายอนุบัญญัติเพื่อกำหนดแนวปฏิบัติให้คนไทยได้รับประโยชน์สูงสุดจากการเข้าเป็นภาคีความตกลงฉบับนี้”