ตามที่มีข่าวมีผู้ขับรถยนต์กระบะพุ่งชนประตูเหล็กด้านหน้าสำนักงานบังคับคดีจังหวัดบุรีรัมย์แล้วตัวรถพุ่งเข้าไปใต้อาคารเกิดเสียงดังคล้ายระเบิด 2 ครั้ง ก่อนจะมีเปลวไฟลุกไหม้ภายในตัวรถยนต์มีผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งเป็นคนขับ 1 คน นั้น
นางทัศนีย์ เปาอินทร์ อธิบดีกรมบังคับคดี เปิดเผยว่า กรณีตามที่เป็นข่าวนั้น ผู้ที่ขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าวเป็นจำเลยที่ 1 ในคดีแพ่งของศาลจังหวัดบุรีรัมย์โดยโจทก์ได้นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินของจำเลยที่ 2 เพื่อขายทอดตลาดชำระหนี้ให้แก่โจทก์ ซึ่งภายหลังจากที่เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดที่ดินที่ได้นำยึดไว้ได้ เจ้าพนักงานบังคับคดีได้จัดทำบัญชีแสดงรายการรับ-จ่ายเงินและแจ้งให้โจทก์กับจำเลยที่ 2 ให้มาตรวจความถูกต้องของการทำบัญชีแสดงรายการรับ-จ่ายเงิน ซึ่งในการจัดทำบัญชีดังกล่าว ปรากฏว่ามีเงินเหลือคืนจำเลยที่ 2 จำนวน 13,149.89 บาท แต่จำเลยที่ 2 ไม่เห็นด้วยกับบัญชีดังกล่าวเกี่ยวกับยอดหนี้ตามคำพิพากษาจึงได้คัดค้านบัญชีต่อเจ้าพนักงานบังคับคดี ซึ่งเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ตรวจสอบการคิดหนี้ตามคำพิพากษาแล้วเห็นว่าถูกต้องตรงตามคำพิพากษาของศาล จึงได้แจ้งยืนยันความถูกต้องของบัญชีให้จำเลยที่ 2 ทราบ และไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 2 ได้ไปร้องคัดค้านต่อศาลจังหวัดบุรีรัมย์แต่อย่างใด จากนั้น เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2564 จำเลยที่ 2 ได้มารับเงินจำนวน 13,146.89 บาท ไปเรียบร้อยแล้ว การดำเนินการในคดีดังกล่าวจึงเสร็จสิ้นไปกว่า 2 ปีแล้ว แต่อย่างไรก็ดีได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการสำนักงานบังคับคดีจังหวัดบุรีรัมย์ตรวจสอบถึงสาเหตุในเรื่องดังกล่าวเพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไป