กรมชลประทาน ประชุมวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ พร้อมวางแผนจัดสรรน้ำฤดูแล้งปี 65/66

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 ที่ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) กรมชลประทาน ถนนสามเสน ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ผ่านระบบ Video Conference ไปยังสำนักงานชลประทานที่ 1-17 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ

กรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักการระบายน้ำกรุงเทพมหานคร การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำ แหล่งน้ำ และแม่น้ำสายหลักต่าง ๆ สำหรับเป็นข้อมูลในการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องและเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ต่อไป

ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปัจจุบัน (14 พ.ย.65) อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกัน 63,845  ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 84 ของความจุอ่างฯ เป็นน้ำใช้การได้ 39,896  ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 76  ของปริมาณน้ำใช้การได้รวมกัน  เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกัน 20,813  ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 84 ของความจุอ่างฯ ปริมาณน้ำใช้การได้ 14,117  ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 78 ของปริมาณน้ำใช้การได้รวมกัน ภาพรวมปริมาณน้ำต้นทุนอยู่ในเกณฑ์ดี

จนถึงขณะนี้มีการจัดสรรน้ำในฤดูแล้งปี 65/66 ทั้งประเทศไปแล้ว 1,659 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 6 ของแผนฯ (แผนจัดสรรน้ำทั้งประเทศ 27,685 ล้าน ลบ.ม.)   เฉพาะลุ่มเจ้าพระยามีการจัดสรรน้ำไปแล้ว 261  ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 3 ของแผนฯ  (แผนจัดสรรน้ำลุ่มเจ้าพระยา 9,100 ล้าน ลบ.ม.)

ทั้งนี้   ได้เข้าสู่ฤดูแล้งของพื้นที่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก รวมทั้งภาคกลางแล้ว  กรมชลประทาน ได้วางแผนจัดสรรน้ำในช่วงฤดูแล้งปี65/66 ให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำต้นทุนตามลำดับความสำคัญของกิจกรรมการใช้น้ำ   โดยจัดสรรน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคเป็นอันดับแรก  เพื่อรักษาระบบนิเวศ  การเกษตร  และอุตสาหกรรม ตามลำดับ  พร้อมวางแผนเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือกว่า 5,382 หน่วย เฝ้าระวังในจุดเสี่ยงขาดแคลนน้ำ  ที่สำคัญได้ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานเกี่ยวข้องทำการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ถึงสถานการณ์น้ำและแผนการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ให้เกษตรกรและประชาชนรับรู้รับทราบอย่างต่อเนื่อง  เพื่อให้มีน้ำเพียงพอไปตลอดช่วงฤดูแล้งนี้  ตาม 10 มาตรการรองรับฤดูแล้ง ปี65/66  ที่คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.)เห็นชอบ

สำหรับพื้นที่ภาคใต้ ที่ยังอยู่ในช่วงฤดูฝน  กรมชลประทาน  ได้กำหนดพื้นที่เฝ้าระวังอุทกภัยใน 16  จังหวัดภาคใต้ ทั้งหมด 90 จุด  พร้อมจัดเตรียมเครื่องจักรเครื่องมือ อาทิ   เครื่องสูบน้ำ  เครื่องผลักดันน้ำ  รถแทรกเตอร์  รถขุด  และเครื่องจักรอื่นๆ เข้าประจำพื้นที่เสี่ยงรวม 1,189  หน่วย

เพื่อให้สามารถเข้าแก้ไขสถานการณ์น้ำได้ทันที  รวมทั้งเฝ้าระวังและติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำท่าจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด  เพื่อนำข้อมูลมาวางแผนบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ควบคู่ไปกับการเก็บกัก  ตลอดจนดำเนินการตาม 13 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 65  ที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กำหนดอย่างเคร่งครัด   เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชนให้ได้มากที่สุด