กรมทางหลวงชนบท จัดกำลังเจ้าหน้าที่ลาดตระเวน ติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้อย่างใกล้ชิด เพื่ออำนวยความสะดวกปลอดภัยให้กับประชาชน ตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมเผยสายทางที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ จ.ยะลา สามารถสัญจรผ่านได้ปกติแล้ว
นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท กล่าวว่า จากนโยบายของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ได้เน้นย้ำในเรื่องการรับมืออุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งตะวันออก เนื่องจากหย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนตัวเข้าปกคลุมบริเวณประเทศมาเลเซีย ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงเหนือ และลมตะวันออกที่พัดปกคลุมภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยเริ่มมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้ภาคใต้มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ได้สั่งการให้หน่วยงานในพื้นที่ภาคใต้รับมือกับสถานการณ์อุทกภัย
โดยเฉพาะจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี นราธิวาส และยะลา ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา มีถนนทางหลวงชนบทในพื้นที่จังหวัดยะลา ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย จำนวน 2 สายทาง คือ
– ถนนสาย ยล.4023 แยก ทล.4065 – เทศบาลยะหา อ.ยะหา จ.ยะลา ระยะทางตลอดสาย 5.598 กิโลเมตร ช่วง กม.ที่ 5+000-5+100
– ถนนสาย ยล.4017 แยก ทล.4063- บ้านบุดี อ.เมือง, รามัน จ.ยะลา ระยะทางตลอดสาย 10.225 กิโลเมตร ช่วง กม.4+400-4+600
ปัจจุบันระดับน้ำลดลงสามารถสัญจรผ่านได้ปกติแล้ว โดยในช่วงที่เกิดเหตุสำนักงานทางหลวงชนบทที่ 12 (สงขลา) แขวงทางหลวงชนบทยะลา ได้ดำเนินการติดตั้งป้ายเตือน ป้ายจราจร พร้อมปักเสาขาวแดงเพื่อบอกแนวเขตทางบนถนนสายดังกล่าวอย่างเร่งด่วน
อย่างไรก็ตาม ทช. ได้จัดเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนติดตามระดับน้ำในพื้นที่ที่ยังมีน้ำท่วมทุกภูมิภาคและเฝ้าระวังถนนในโครงข่ายทางหลวงชนบทสายทางอื่นควบคู่กันไปด้วย ตลอดจนได้เตรียมเครื่องมือ เครื่องจักร วัสดุอุปกรณ์ สะพานเบลีย์ ยานพาหนะในการรับส่งผู้ประสบภัยในกรณีน้ำท่วมสูงในสายทาง เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยเหลือประชาชนได้ทันที
ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชนโปรดระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนนเป็นพิเศษ โปรดสังเกตป้ายเตือน โดยสามารถแจ้งเหตุอุทกภัยได้ที่แขวงทางหลวงชนบททั่วประเทศหรือติดต่อสายด่วนกรมทางหลวงชนบท 1146