สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 26 ต.ค.65 65 เวลา 7.00 น.
+ ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ และภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น
+ ปริมาณฝน 24 ชั่วโมง สูงสุดที่ จ.ตรัง (96) จ.น่าน (23) และ จ.ชลบุรี (22)
+ ปริมาณน้ำ แหล่งน้ำทุกขนาด 68,487 ล้าน ลบ.ม. (83%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 60,252 ล้าน ลบ.ม. (84%) เฝ้าระวังน้ำต่ำกว่าเกณฑ์บริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำ จำนวน 1 แห่ง บริเวณภาคเหนือ เฝ้าระวังน้ำสูงกว่าเกณฑ์บริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำ จำนวน 21 แห่ง ได้แก่ แม่งัด กิ่วลม กิ่วคอหมา แม่มอก แควน้อย ทับเสลา กระเสียว ป่าสัก ห้วยหลวง อุบลรัตน์ ลำตะคอง ลำพระเพลิง มูลบน ลำแชะ ลำนางรอง ขุนด่าน บางพระ หนองปลาไหล นฤบดินทรจินดา และบึงบระเพ็ด
+ สถานการณ์น้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา 26 ต.ค. 65 ที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,376 ลบ.ม./วินาที ปริมาณน้ำในพื้นที่ตอนบนแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาลดลงเช่นกัน โดยมีปริมาณน้ำไหลผ่าน ในอัตราประมาณ 2,293 ลบ.ม./วินาที ด้านสถานีวัดน้ำ C.29A อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา มีปริมาณน้ำไหลผ่านเฉลี่ย 2,939 ลบ.ม./วินาที แนวโน้มลดลง
+ การซ่อมแซมพนังกั้นน้ำชี บริเวณบ้านสะดำศรี ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นจุดที่ถูกน้ำกัดเซาะจนขาด ปัจจุบันการซ่อมแซมปิดรอยรั่วพนังกั้นน้ำทั้ง 2 ฝั่ง ระหว่างสำนักงานชลประทานที่ 6 ขอนแก่น ซ่อมแซมฝั่งบ้านโนนแดง และสำนักงานทางหลวงชนบทกาฬสินธุ์ ซ่อมแซมฝั่งบ้านสะดำ ปัจจุบันได้ดำเนินการซ่อมแซมพนังกั้นแล้วเสร็จ
+ ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมใน 31 จังหวัด ได้แก่ จ. พิษณุโลก พิจิตร อุทัยธานี นครสวรรค์ สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นครปฐม ชัยนาท นนทบุรี ลพบุรี สุพรรณบุรี สระบุรี หนองบัวลำภู ชัยภูมิ มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ขอนแก่น ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ ยโสธร นครราชสีมา สุรินทร์ นครนายก ปราจีนบุรี สุราษฎร์ธานี นราธิวาส และตรัง
+ กอนช. คาดสถานการณ์น้ำกลับสู่ภาวะปกติกลางเดือนพฤศจิกายนเตรียมบูรณาการหน่วยเกี่ยวข้องฟื้นฟูความเสียหายหลังน้ำลดโดยเร็วที่สุด
ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการ สทนช. ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำ ดังนี้
ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ปัจจุบันปริมาณน้ำเหนือจากแม่น้ำปิงและน่าน รวมถึงปริมาณฝนในพื้นที่ลดลง คาดว่าสถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาจะเข้าสู่สภาวะปกติประมาณช่วงกลางเดือน พ.ย. 65 หรืออาจเร็วกว่ากำหนดคือช่วงปลายสัปดาห์แรกของเดือน พ.ย. 65 หากสามารถควบคุมการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาได้ที่ 1,500 ลบ.ม. ต่อวินาที รวมถึงลุ่มน้ำชี – มูล คาดว่าจะเข้าสู่สภาวะปกติในช่วงกลางเดือน พ.ย. 65 เช่นเดียวกัน
คณะทำงานอำนวยการบริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภายใต้ กอนช. ได้เตรียมพร้อมการดำเนินการภายหลังน้ำลด โดยมีการประเมินและชี้เป้าพื้นที่ที่ระดับน้ำลดลงและแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือ พร้อมทั้งอำนวยการและประสานการปฏิบัติงานกับหน่วยงานในพื้นที่จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ
ทั้งนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้เร่งช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อจ่ายค่าชดเชยเยียวยา และพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ กอนช. ได้กำชับในเรื่องการระบายน้ำออกจากพื้นที่ที่ยังมีน้ำท่วมขังให้ระดับน้ำลดลงโดยเร็วที่สุด โดย กอนช. จะเร่งดำเนินการตามข้อสั่งการอย่างเคร่งครัด
กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ขอรายงานสถานการณ์และการบริหารจัดการน้ำ ประจำวันที่ 26 ตุลาคม 2565 ดังนี้
1. ผลการดำเนินงานตามมาตรการรองรับฤดูฝน ปี 2565
ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เปิดเผย กอนช. ได้บริหารจัดการตามเกณฑ์ความปลอดภัยของเขื่อนเจ้าพระยาและหลักเกณฑ์
การบริหารน้ำเพื่อความปลอดภัยเขื่อนและให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด โดยควบคุมระดับน้ำหน้าเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ เพื่อลดการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา เพิ่มการรับน้ำเข้าคลองฝั่งตะวันออก และลดการระบายน้ำ จากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เพื่อลดระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักก่อนลงสมทบแม่น้ำเจ้าพระยา รวมทั้งลดการรับน้ำเข้าคลอง ฝั่งตะวันตกเพื่อเร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่ในทุ่ง หรือบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำ ก่อนออกอ่าวไทย
โดยคณะทำงานอำนวยการบริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้เตรียมพร้อมการดำเนินการภายหลังน้ำลด ทั้งนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้เร่งช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อจ่ายค่าชดเชยเยียวยา และพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ กอนช. ได้กำชับในเรื่องการระบายน้ำออกจากพื้นที่ที่ยังมีน้ำท่วมขังให้ระดับน้ำลดลงโดยเร็วที่สุด
โดย กอนช. จะเร่งดำเนินการตามข้อสั่งการอย่างเคร่งครัด พร้อมกันนี้ ได้มีการเตรียมแผนการฟื้นฟูความเสียหายจากอุทกภัยหลังน้ำลดในพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ ได้แก่ ช่วงวันที่ 25 ต.ค – 15 พ.ย. 65 จ.อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี สระบุรี ช่วงวันที่ 1 พ.ย. 65 – 30 พ.ย. 65 จ.อ่างทอง นนทบุรี ปทุมธานี และช่วงวันที่ 15 พ.ย. – 30 ธ.ค. 65 จ.พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี นครปฐม โดยจะมีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการช่วยเหลือฟื้นฟูให้ทุกพื้นที่กลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติโดยเร็ว
2. สภาพอากาศ
ในช่วงวันที่ 25 – 27 ต.ค. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนจากประเทศจีนปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ส่งผลให้มีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ทำให้ประเทศไทยตอนบน
มีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้นกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 28 – 31 ต.ค. 65 บริเวณความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง และอุณหภูมิจะลดลง กับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะเริ่มลดลง
ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลงในระยะถัดไป สำหรับ
ร่องมรสุมยังคงพาดผ่านบริเวณภาคใต้ตอนกลางและตอนล่างตลอดช่วง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางแห่ง
3. สถานการณ์น้ำท่วม
สถานการณ์อุทกภัยในชุมชนเมืองและพื้นที่เกษตรกรรม ปัจจุบันมี 31 จังหวัด ได้แก่ ภาคเหนือ 4 จังหวัด พิษณุโลก พิจิตร อุทัยธานี และนครสวรรค์ ภาคกลาง 10 จังหวัด สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานีนครปฐม ชัยนาท นนทบุรี ลพบุรี สุพรรณบุรี และสระบุรี
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 12 จังหวัด หนองบัวลำภู ชัยภูมิ มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ขอนแก่น ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ ยโสธร นครราชสีมา และสุรินทร์
ภาคตะวันออก 2 จังหวัด นครนายก และปราจีนบุรี ภาคใต้ 3 จังหวัด สุราษฎร์ธานี นราธิวาส และตรัง