“พลเอก สุรยุทธ์” ให้โอวาทแก่เยาวชน 320 คน เข้าร่วมกิจกรรม “ศึกษา เรียนรู้ สังคมพหุวัฒนธรรมพระนครศรีอยุธยา” โครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่น 39 ณ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

วันที่ 22 ตุลาคม 2565 เวลา 15.00 น. ที่ อาคารหอประชุม มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนครศรีอยุธยา นายประทีป การมิตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้การต้อนรับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานคณะกรรมการอำนวยการโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” ในโอกาสเดินทางมาเป็นประธานให้โอวาทและกล่าวปิดกิจกรรม ศึกษา เรียนรู้ สังคม พหุวัฒนธรรมพระนครศรีอยุธยา โครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่น 39 โดยมี นายสมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์ รองอธิบดีกรมการปกครอง พร้อมด้วย รศ.ดร.ชูสิทธิ์ ประดับเพ็ชร์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา นายประดิษฐ์ รัตนโกมล ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ ผู้บริหารสถานศึกษา เจ้าหน้าที่ และเยาวชนจากจังหวัดสงขลา ยะลา ปัตตานี สตูล นราธิวาส ตลอดจนครูพี่เลี้ยง เข้าร่วมกิจกรรม รวมจำนวน 400 คน

ทั้งนี้ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมกับ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา ได้นำเยาวชนทั้ง 320 คน และครูพี่เลี้ยง จำนวน 20 คน ทัศนศึกษาเรียนรู้สังคมพหุวัฒนธรรม เข้าเยี่ยมชมกุโบร์ท่านเจ้าพระยาบวรราชนายก(เฉกอะหมัด) เรียนรู้ประวัติศาสตร์ ที่ศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์ เยี่ยมชมความยิ่งใหญ่ของเจดีย์วัดใหญ่ชัยมงคล ชมวัดมหาธาตุ วัดราชบูรณะ วัดพระศรีสรรเพชญ์ และวิหารพระมงคลบพิตร ทำให้เยาวชนได้รับประสบการณ์ตรง และมีความรู้ ความเข้าใจ บริบทของสังคมประเทศไทยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ตัวแทนจากเยาวชนทั้ง 5 จังหวัด ได้ร่วมเสวนา หัวข้อ “พหุวัฒนธรรมความเป็นหนึ่งเดียว” ในการนี้ได้รับเกียรติจาก นายประทีป การมิตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวต้อนรับเยาวชนและแขกผู้มีเกียรติ ต่อจากนั้น น้องๆ เยาวชน ยังจะได้ฝึกการเรียนรู้ผ่านฐานเรียนอาชีพ อาทิ การทำโรตีสายไหม การสานปลาตะเพียน การทำขนมไทย และการทำอาหารพื้นเมือง

พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานคณะกรรมการอำนวยการโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 39 กล่าวว่า การดำเนินโครงการดังกล่าว เพื่อต้องการให้เยาวชน ได้ศึกษาเรียนรู้ เยี่ยมชม ความเก่าแก่ ความโบราณของบ้านเมืองพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดอื่นๆ ให้ตระหนักรู้ว่าสถานที่แห่งนี้ เป็นที่รวมพล รวมใจ และเทคโนโลยี มีทั้งความร่วมมือ ความรัก ความสามัคคี นำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองให้เยาวชนได้เห็น อดีตจะสอนให้เรารูจักปรับตัวเพื่อต่อสู้กับอนาคต ดังนั้น เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับการอบรมและร่วมกันสานสัมพันธ์ความสามัคคี ส่งผลให้เกิดความเข้าใจและสามารถพัฒนาตนเองให้เติบโตขึ้นเป็นเยาวชนที่มีคุณภาพในอนาคต

สำหรับจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้คัดเลือกครอบครัวอุปถัมภ์ จำนวน 18 ครอบครัว เยาวชนเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 37 ราย ซึ่งพำนักอยู่ใน 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอลาดบัวหลวง อำเภอบางปะอิน อำเภออุทัย อำเภอวังน้อย ซึ่งเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ที่ผ่านมา ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ได้จัดกิจกรรมเปิดจวนผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต้อนรับเยาวชนและครอบครัวอุปถัมภ์ทั้ง 18 ครอบครัว และกิจกรรมที่ 2 เปิดค่ายประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา/เรียนรู้วิถีชุมชนพหุวัฒนธรรม ระหว่างวันที่ 21-22 ตุลาคม 2565 ต้อนรับเยาวชนทั้ง 320 คน ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่นและประทับใจ

ข่าว : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา