นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคอีสาน พร้อมเยี่ยมพบปะเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติ อุทกภัย ด้านปศุสัตว์
ณ ศูนย์พักพิงและอพยพสัตว์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ว่า จังหวัดนครราชสีมาได้รับผลกระทบจากปริมาณฝนตกมากประกอบกับพายุโนรูเคลื่อนที่ผ่านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงได้ประกาศเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ว จำนวน 26 อำเภอ ครอบคลุมพื้นที่ 172 ตำบล 1,653 หมู่บ้าน 27 ชุมชน
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และจังหวัดนครราชสีมา ได้ดำเนินการตามมาตรการให้ความช่วยเหลืออย่างเข้มข้น ตั้งแต่ขั้นเตรียมการก่อนเกิดภัย ขณะเกิดภัย และขณะนี้สถานการณ์น้ำดีขึ้นตามลำดับ คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติในไม่ช้า หลังจากนั้นจะทำการสำรวจความเสียหาย ทั้งด้านเกษตร ประมง และปศุสัตว์ เพื่อเข้าสู่กระบวนการช่วยเหลือตามระเบียบหลักเกณฑ์ของกระทรวงการคลังต่อไป
“ทางรัฐบาลโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และกระทรวงเกษตรฯมีความห่วงใยพี่น้องเกษตรกรเป็นอย่างมาก เมื่อน้ำลดแล้ว หากเกษตรกรพบว่าเกิดความเสียหาย สัตว์ตายหรือสูญหาย ให้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตามความเป็นจริง ทางกระทรวงเกษตรฯ จะเร่งดำเนินการช่วยเหลือเยียวยา และขอให้เกษตรกรดำเนินการปรับปรุงข้อมูลทะเบียนเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ทุกปี ข้อมูลนี้จะช่วยให้ทางราชการเข้าช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรได้อย่างทันท่วงที สามารถไปขึ้นทะเบียนได้ที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอ
นอกจากนั้นยังมี “โครงการสานฝันสร้างอาชีพและยกระดับรายได้เกษตรกร” เพื่อส่งเสริมอาชีพ และฟื้นฟูอาชีพให้เกษตรกรภายหลังจากสถานการณ์คลี่คลาย ซึ่งหากเกษตรกรท่านใดสนใจสามารถประสานกับสำนักงานปศุสัตว์ สำนักงานประมง สำนักงานเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ในพื้นที่ได้” รมช.ประภัตร กล่าว
ในการนี้ กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมปศุสัตว์ ได้นำหญ้าอาหารสัตว์พระราชทาน จำนวน 200 ฟ่อน แก่เกษตรกรจำนวน 82 ราย เพื่อนำมาช่วยเหลือแก่สัตว์เลี้ยงของเกษตรกรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ตำบลหนองไข่น้ำ อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ทั้งยังมอบถุงยังชีพ น้ำดื่ม ไข่ไก่จำนวน 200 แผง ชุดเวชภัณฑ์สัตว์ 100 ชุด และมีรถสัตวแพทย์เคลื่อนที่จะดำเนินการให้ความช่วยเหลือ จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ และตลอดในช่วงฤดูฝน เพื่อความขวัญกำลังใจแก่เกษตรกรต่อไป