พาณิชย์ติดตามสถานการณ์สินค้าอุปโภคบริโภคในพื้นที่น้ำท่วม พบสต็อกและการจัดส่งสินค้าไร้ปัญหา ห้างจัดโปรโมชั่นลดราคาช่วยค่าครองชีพ

ร้อยตรีจักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะแถบลุ่มแม่น้ำ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในติดตามสถานการณ์ราคาและปริมาณสินค้าอย่างใกล้ชิด ซึ่งกรมฯ ได้ประชุมทางไกลกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ขอให้สำรวจและรายงานสถานการณ์การจำหน่ายสินค้าในพื้นที่รับผิดชอบ ในขณะเดียวกันก็ได้ประชุมหารือกับห้างค้าส่งค้าปลีกขอให้บริหารจัดการและจัดเตรียมสต็อกสินค้าอุปโภคบริโภคให้มีเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งได้รับการยืนยันจากทุกห้างว่า ได้จัดเตรียมสต็อกสินค้าไว้อย่างพอเพียงและไม่มีปัญหาในการกระจายสินค้าไปยังสาขาต่างๆ แม้จะเป็นพื้นที่น้ำท่วม

รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ได้ร่วมกับนายวีระพงศ์ สืบค้า พาณิชย์จังหวักปทุมธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจสถานการณ์การจำหน่ายสินค้า ณ ห้างซีเจ สาขาเทศบาลสามโคก อ. สามโคก จ. ปทุมธานี พบว่า สถานการณ์ยังคงเป็นปกติ โดยผู้จัดการร้านแจ้งว่าประชาชนที่ออกมาจับจ่ายใช้สอยช่วงนี้ส่วนหนึ่ง
ซื้อสินค้าครั้งละมากขึ้นเนื่องจากอาจไม่สะดวกที่จะเดินทางมาซื้อของบ่อยครั้ง อย่างไรก็ตาม ห้างก็ได้จัดเตรียมสต็อกสินค้าไว้อย่างเพียงพอและมีการเติมสินค้าจากศูนย์กระจายสินค้าของห้างเป็นประจำ

ในการสำรวจสถานการณ์ครั้งนี้พบว่ามีการจัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้าเป็นจำนวนมาก ลดสูงสุดกว่า 50% อาทิ หมวดอาหารและเครื่องดื่ม เช่น ข้าวหอมมะลิ (5 กก.) ลดจาก 230 บาท เป็น 129 บาท ซอสปรุงรส (ขวด 700 มล.) ลดจาก 42 บาท เป็น 29 บาท นมกล่องยูเอชที (แพ็ค 4 แถม 1) ลดจาก 100 บาท เป็น 75 บาท (เฉลี่ยแพ็คละ 15 บาท) กาแฟ 3 IN 1 (40 ซอง) ลดจาก 167 บาท เป็น 132 บาท หมวดชำระล้าง เช่น น้ำยาซักผ้า (700 มล.) ลดจาก 82 บาท เป็น 41 บาท น้ำยาปรับผ้านุ่ม (500 มล.) ลดจาก 62 บาท เป็น 29 บาท ครีมอาบน้ำ (ถุง 400 มล.) ลดจาก 107 บาท เป็น 53.50 บาท แชมพู (625 มล.) ลดจาก 199 บาท เป็น 99.50 บาท หมวดของใช้ประจำวัน เช่น ผลิตภัณฑ์รีดผ้า (500 มล.) ลดจาก 18 บาท เป็น 9 บาท ทิชชู (แพ็ค 6 ม้วน) ลดจาก 105 บาท เป็น 89 บาท เป็นต้น ทั้งนี้ เป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพแก่ผู้บริโภคส่วนหนึ่ง

กรมฯ จะติดตามสถานการณ์ปริมาณและราคาสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างต่อเนื่องต่อไป และขอเน้นย้ำถึงผู้ประกอบการว่าห้ามฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าแพงเกินสมควรและต้องปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน กรณีการจำหน่ายสินค้าในราคาแพงเกินสมควรหรือกักตุนสินค้ามีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกรณีที่ไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายจะมีโทษสูงสุดปรับไม่เกิน 10,000 บาท หากประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรมทางการค้า สามารถร้องเรียนมาที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ