ความคืบหน้าปฏิบัติการเยียวยาจิตใจในพิธีพระราชทานเพลิงศพในพระบรมราชานุเคราะห์ พร้อมส่งทีม MCATT ร่วมกระจายกำลังให้กำลังใจใกล้ชิด

ความคืบหน้าปฏิบัติการเยียวยาจิตใจในพิธีพระราชทานเพลิงศพในพระบรมราชานุเคราะห์ พร้อมส่งทีม MCATT ร่วมกระจายกำลังให้กำลังใจใกล้ชิด พร้อมขอบคุณชุมชนที่ร่วม “ฮักแพง เบิ่งแยงใจ” ก้าวผ่านสถานการณ์ไปพร้อมกัน


วานนี้ (11 ตุลาคม 2565) กรมสุขภาพจิตขอชื่นชมชาวชุมชนหนองบัวลำภู ร่วมก้าวผ่านวิกฤต จัดระบบดูแลกันเองโดยใช้วิถี “ฮักแพงเบิ่งแยงใจ” การกระจายทีม MCATT เพื่อเฝ้าระวังและพร้อมที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างใกล้ชิดในพิธีพระราชทานเพลิงศพในพระบรมราชานุเคราะห์

นายแพทย์ธิติ แสวงธรรม รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า จากการเข้าร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพในพระบรมราชานุเคราะห์ชาวกรมสุขภาพจิตขอชื่นชมชาวชุมชนหนองบัวร่วมก้าวผ่านวิกฤต ร่วมกิจกรรมประเพณีท้องถิ่นและประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เผยมีผลดีอย่างยิ่งต่อการเยียวยาจิตใจญาติและชุมชนโดยรอบได้อีกด้วย การแสดงความรู้สึกทุกข์โศกหรือร่วมไว้อาลัยอาวรณ์ท่ามกลางผู้อยู่ในความรู้สึกเดียวกัน ได้รับกำลังใจเห็นใจ เข้าใจซึ่งกันและกัน และประคับประคองให้ชุมชนกลับมาเข้มแข็ง

นายแพทย์จุมภฏ พรมสีดา รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาทางชุมชนได้ร่วมแรงร่วมใจที่จะก้าวข้ามสถานการณ์ที่ย่ำแย่ โดยได้มีพิธีกรรมทางศาสนาถวายผ้าไตรอุทิศส่วนกุศล สวดพระอภิธรรม และท้ายที่สุดพิธีพระราชทานเพลิงศพในพระบรมราชานุเคราะห์ อีกในพื้นที่ยังมีการทำพิธีเอิ้นขวัญ เพื่อนำดวงวิญญาณผู้เสียชีวิตกลับบ้านตามความเชื่อของวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยมีญาติผู้เสียชีวิตและประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมพิธีอย่างคับคั่ง ตามวิถีของคนอีสาน “ฮักแพง เบิ่งแยงใจ” โดยในวันนี้ยังเป็นวันที่สำคัญสำหรับความครัวผู้สูญเสียคือวันพระราชทานเพลิงศพในพระบรมราชานุเคราะห์

ทั้งนี้ชุมชนได้จัดระบบดูแลกันเอง เช่น การให้ที่พักพิงสำหรับครอบครัวผู้สูญเสีย เพื่อหลีกหนีจากสภาพแวดล้อมอันจะทำให้เกิดความเศร้าโศกมากยิ่งขึ้นจากการระลึกถึงผู้เสียชีวิต การบริจาคอาหารและน้ำดื่มสำหรับผู้ที่มาช่วยงาน นอกจากนี้ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ภาครัฐ สื่อมวลชนและประชาชนที่มาร่วมแสดงความห่วงใย รัก ไว้อาลัย ได้ร่วมพิธีด้วยความสงบในพื้นที่ที่เหมาะสมในระแวกพิธีการ นับว่าเป็นการร่วมบุญครั้งใหญ่ส่งให้กับผู้ล่วงลับ และส่งต่อความหวัง ความปรารถนาดีแก่ครอบครัวผู้สูญเสีย

แพทย์หญิงจุฬาพันธุ์ เหมกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจิตเวชเลยราชนครินทร์ กล่าวว่า ในช่วงระยะแรกหลังเกิดเหตุการณ์ บรรยากาศการแสดงออกถึงความเศร้าเสียใจเป็นกลไกทางจิตใจปกติที่เกิดขึ้นได้ แต่ในกรณีมีพื้นฐานจิตใจที่เปราะบางหรือเหตุการณ์ความสูญเสียมีความรุนแรงมาก อาจมีการหายใจหอบ อ่อนเพลียรุนแรง แขนขาชาและไม่มีเรี่ยวแรง จึงควรจัดผู้ดูแลปฐมพยาบาลใกล้ชิดด้วยการอยู่ในที่สงบ แนะนำการควบคุมการหายใจช้าๆ แล้วกลั้นหายใจชั่วขณะสั้น ๆ ตามด้วยการหายใจออกยาวๆ ช้าๆ และวนกลับมาหายใจเข้าช้าๆ กลั้นหายใจและหายใจออกไปเรื่อย ๆ เช่นนี้ อาการจะค่อยๆ ดีขึ้นได้ภายใน 5 – 10 นาที

ทั้งนี้หากผู้ที่อยู่ในความกดดันทางอารมณ์สูงยังอาจมีการกรีดร้องหรือพฤติกรรมถดถอยแปลกไปจากเพื่อไม่ให้เกิดอุปทานหมู่ (Mass hysteria) โดยปรากฎการณ์เช่นนี้ สามารถเร้าให้บุคคลที่มีความอ่อนไหวเปราะบางรอบข้างเกิดความรู้สึกและการแสดงออกคล้ายกันตามมาได้อีก เป็นภาวะของอุปทานหมู่ที่สามารถช่วยเหลือด้วยการแยกให้พักในที่สงบในบรรยากาศผ่อนคลายสักครู่ ก็จะค่อย ๆ กลับคืนมาสู่ปกติได้

ทั้งนี้กรมสุขภาพจิตดำเนินการจัดการทีมช่วยเหลือเยียวยาจิตใจ โดยการกระจายทีม MCATT เพื่อเฝ้าระวังและพร้อมที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างใกล้ชิดในบริเวณวัดราษฎร์สามัคคี วัดศรีอุทัย วัดเทพมงคล และประจำอยู่จุดสำคัญในชุมชนอีกด้วยและในวันนี้ได้ยกระดับการดูแลในระยะประชิดตามทะเบียนญาติผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุกาณ์ เพื่อเป็นข้อมูลในการสังเกตเฝ้าระวัง ปัญหาสุขภาพจิต โดยเฉพาะในพิธีพระราชทานเพลิงศพทำงานร่วมกับทีมสหวิชาชีพ ทำการดูแลสุขภาพกายและสุขภาพจิตร่วมกัน ทั้งนี้หลังจากเสร็จสิ้นพิธี ยังไม่พบผู้ร่วมพิธีมีอาการดังกล่าว ขอให้สังคมร่วมกันสร้างภูมิคุ้มกันให้ประชาชนและชุมชนเข้มแข็ง ผู้ได้รับผลกระทบได้ฟื้นฟูจิตใจให้คืนสภาพปกติ

โดยขอให้ประชาชนและสื่อมวลชน งดเว้นการสอบถามสัมภาษณ์ผู้สูญเสียและผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์โดยตรง วอนสื่อทุกแขนงและประชาชนอย่าคาดคั้นสอบถามความรู้สึกจากเหตุการณ์ซ้ำ ๆ เพราะจะยิ่งเป็นการสร้างแผลให้บาดลึกมากยิ่งขึ้น เพื่อให้แต่ละครอบครัวมีเวลาในการจัดกิจกรรมที่สำคัญที่มีผลต่อการสมานเยียวยาจิตใจ และจะมีการหารือร่วมกับ ทีมปฏิบัติการสังคมสงเคราะห์ กระทรวงพัฒนาสังคมและความั่นคงของมนุษย์ ในการช่วยเหลือเยียวยาแบบบูรณาการ โดยจะมีการประชุมเพื่อหารือในรายละเอียดในวันที่ 12 ตุลาคมนี้ต่อไปอีกด้วย