ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เผย พร้อมตรวจหาสารเสพติดในร่างกายผู้ก่อเหตุ จ.หนองบัวลำภู ผ่านเส้นผม ชี้ มีความแม่นยำกว่า ย้อนหลังได้ถึง 3 เดือน ยัน หากประสานมา พร้อมตรวจทันที
พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เปิดเผยถึงกรณีการตรวจหาสารเสพติดในร่างกายว่า ปัจจุบันวิธีการตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย มี 4 วิธี คือ ตรวจทางน้ำลาย ปัสสาวะ เลือด และเส้นผม โดยวิธีที่นิยมที่สุดคือ การตรวจทางปัสสาวะ เนื่องจากเป็นวิธีที่ง่าย ตรวจได้ครั้งละหลายคน และมีความสะดวกสำหรับผู้ใช้งานภาคสนาม แต่การตรวจด้วยวิธีดังกล่าว ก็มีข้อจำกัด โดยนับจากการใช้สารเสพติดครั้งสุดท้ายไม่เกิน 3-5 วัน หากใช้สารเสพติดก่อนหน้านี้ ผลตรวจ ก็อาจแสดงไม่ชัดเจน
พ.ต.ต.สุริยา กล่าวอีกว่า ส่วนการตรวจหาสารเสพติดทางเลือดและทางเส้นผม มีความแม่นยำและถูกต้องมากกว่า แต่การตรวจทางเส้นผม จะสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมผู้เสพย้อนหลังได้ว่า ใช้สารเสพติดตั้งแต่เมื่อไหร่ โดยตัวแปรการเปรียบเทียบปริมาณสารเสพติดอยู่ที่ความยาวของเส้นผม หากเส้นผมยาว 1 เซนติเมตร สามารถวิเคราะห์ข้อบ่งชี้การใช้สารเสพติดมาไม่น้อยกว่า 30 วัน ถ้าเส้นผมยาว 3 เซนติเมตร ก็บ่งชี้การใช้สารเสพติดมาไม่น้อยกว่า 90 วัน โดยสำหรับในประเทศไทย สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เป็นหน่วยงานแรก ที่มีการตรวจหาสารเสพติดทางเส้นผม ทั้งบุคลากรและวิธีการตรวจได้มาตรฐานรับรอง ซึ่งในอนาคตจะมีการขยายและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ให้ภาคีที่มีความพร้อมในการตรวจ
“ขณะนี้ มีประชาชน และหน่วยงานรัฐประสานส่งตัวอย่างให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ตรวจหาสารเสพติด เนื่องจากสถาบันฯ มีเครื่องมือ ที่สามารถตรวจหาสารเสพติดประเภท 1-5 ได้ถึง 26 ชนิด รวมถึงกัญชาด้วย แต่ขณะนี้ ยังไม่มีการประสานส่งตัวอย่างให้ตรวจหาสารเสพติดของผู้ก่อเหตุ ที่ จ.หนองบัวลำภู มาที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งหากส่งมา เราก็พร้อมยินดีตรวจให้” ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าว