นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ฯ เปิดเผยว่า โครงการชลประทานอยุธยา รายงานสถานการณ์น้ำ วันที่ 7 ตุลาคม 2565 เวลา 06.00 น. ปริมาณการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา C13 ที่ 2,877 ลบ.ม/วินาที เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 180 ลบ.ม/วินาที ส่วนระดับน้ำที่ C35 บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำสูงกว่าระดับตลิ่ง 1.32 ม. ระดับน้ำสูงขึ้นจากเมื่อวาน 2 ซม.
ส่วนปริมาณน้ำระบายท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ระดับน้ำที่ สถานี S.26 (เขื่อนพระรามหก) อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ระบาย 1,043 ลบ.ม/วินาที ระดับน้ำสูงกว่าระดับตลิ่ง 1.81 ม. ระดับน้ำสูงขึ้นจากเมื่อวาน 18 ซม. และสถานี S.5 (สะพานปรีดี-ธำรง) อ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำสูงกว่าระดับตลิ่ง 8 ซม. ระดับน้ำสูงขึ้นจากเมื่อวาน 4 ซม.
ทั้งนี้ มีประชาชนได้รับผลกระทบน้ำล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือน รวม 12 อำเภอ 132 ตำบล 775 หมู่บ้าน 41,386 ครัวเรือน และพื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบ รวม 2,566 ไร่ ซึ่งจังหวัดฯ ได้ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยแล้ว พร้อมแจกจ่ายถุงยังชีพพระราชทาน และถุงยังชีพ ที่ได้รับสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ อาทิ มูลนิธิ องค์กร ภาคเอกชน และประชาชน มอบให้กับผู้ได้รับผลกระทบแล้ว กว่า 7 หมื่นชุด
อย่างไรก็ตาม ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ฯ ขอแจ้งเตือนพี่น้องประชาชน หน่วยงาน ห้างร้าน ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางบาล อ.เสนา และ อ.ผักไห่ ระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นจากเดิม 0.15 – 0.30 เมตร ตั้งแต่บริเวณ อ.บางไทร จึงขอให้ติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และเฝ้าระวังระดับน้ำบริเวณเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น ช่วงวันที่ 8-13 ตุลาคม 2565 ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือ แจ้งเหตุได้ที่ ปภ สายด่วน 1784
ข่าว : #สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา