ด่วน! “ปศุสัตว์” บุกตรวจสอบห้องเย็นซุกเนื้อหมู-ไก่เถื่อนล็อตใหญ่กว่า 100 ตัน

สมุทรสาคร 7 ต.ค. – กรมปศุสัตว์บุกจับห้องเย็นที่ลักลอบนำเข้าชิ้นส่วนสุกรและไก่ น้ำหนักรวม 160 ตัน คาดยังมีการลักลอบนำเข้าต่อเนื่อง ซึ่งสร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรและไก่ของไทย เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโรคสัตว์ รวมถึงอาจทำให้ประชาชนบริโภคสินค้าที่ไม่มีคุณภาพและมาตรฐาน อายัดของกลางทั้งหมด พร้อมเร่งนำตัวอย่างเข้าตรวจสอบหาเชื้อโรคและสารตกค้าง

นายสัตวแพทย์ชัยวัฒน์ โยธคล รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า ชุดปฏิบัติการพิเศษพญาไทและเจ้าหน้าที่กองสารวัตรและกักกันเข้าตรวจสอบห้องเย็นที่คาดว่า อาจมีเนื้อสัตว์ที่ลักลอบนำเข้าซุกซ่อนอยู่ ตามข้อสั่งการของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ห่วงใยว่า ปัญหาดังกล่าวจะสร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรและไก่ของไทยทั้งระบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกษตรกรรายย่อย รวมถึงอาจทำให้เกิดการแพร่ของโรคระบาดสัตว์ ตลอดจนทำให้ประชาชนมีความเสี่ยงที่จะบริโภคสินค้าปศุสัตว์ที่ไม่มีคุณภาพและมาตรฐาน ดังนั้นจึงให้กรมปศุสัตว์เร่งแก้ปัญหาอย่างจริงจังและต่อเนื่อง

สำหรับปฏิบัติการดังกล่าว เจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ร่วมกับเจ้าหน้ากรมศุลกากร ตำรวจ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค กองบัญชาการสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบห้องเย็นบริษัทนาสาครห้องเย็น จำกัด อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งประกอบกิจการลักษณะรับฝากและผลิตจำหน่ายสินค้าปศุสัตว์

จากการตรวจสอบพบซากสัตว์ได้แก่ ชิ้นส่วนสุกรและขาไก่ซึ่งนำเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาต น้ำหนักรวม 160 ตัน ประกอบด้วย

1. เนื้อสามชั้นจากประเทศอิตาลีและเยอรมัน 70 ตัน
2. ซี่โครงจากประเทศบราซิล 40 ตัน
3. ขาไก่จากประเทศบราซิล 25 ตัน
4. ขาไก่จากประเทศตุรกี 25 ตัน

ทั้งนี้พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ยึดอายัดของกลางทั้งหมด เพื่อดำเนินคดีตามพ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 ตาม มาตรา 31 วรรค 1 เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและควบคุมโรคระบาด ผู้ใดนําเข้า ส่งออก หรือนําผ่าน ราชอาณาจักรซึ่งสัตว์หรือซากสัตว์ ต้องได้รับใบอนุญาตจากอธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายทุกครั้งที่นําเข้า ส่งออกหรือนําผ่านราชอาณาจักร ราชอาณาจักร มีบทกำหนดโทษ ตามมาตรา 68 จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงมาตรา 22 เมื่อได้ประกาศกําหนดเขตโรคระบาดชั่วคราวตามมาตรา 20 หรือประกาศกําหนดเขตโรคระบาดหรือเขตเฝ้าระวังโรคระบาด ตามมาตรา 21 ห้ามมิให้ผู้ใดเคลื่อนย้ายสัตว์หรือซากสัตว์ ตามที่กําหนดในประกาศดังกล่าว เข้า ออก ผ่าน หรือภายในเขตนั้น เว้นแต่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือ จากสัตวแพทย์ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบประจําเขตนั้นทุกครั้งที่มีการเคลื่อนย้าย มีบทกำหนดโทษ ตามมาตรา 65 จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ขณะนี้นำตัวอย่างส่งตรวจห้องปฏิบัติการกรมปศุสัตว์ เพื่อหาเชื้อโรคตามพรบโรคระบาดสัตว์และสารตกค้างที่เป็นอันตรายต่อไป

นายสัตวแพทย์ชัยวัฒน์ กล่าวว่า กรมปศุสัตว์ยังคงคุมเข้มตรวจสอบห้องเย็นเพื่อป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าเนื้อสัตว์อย่างจริงจัง หากประชาชนพบเบาะแสการกระทำผิด สามารถแจ้งผ่านแอปพลิเคชัน DLD 4.0 หรือสายด่วนกรมปศุสัตว์ 063-225 -6888 ได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมงขอรับข้อมูลเพิ่มเติม หรือขอรับข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.dld.go.th/.