กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ขอรายงานสถานการณ์และการบริหารจัดการน้ำ ประจำวันที่ 2 ตุลาคม 2565 ดังนี้
1. ประกาศกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ
ประกาศกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ฉบับที่ 44/2565 ลงวันที่ 28 กันยายน 2565 กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ แจ้งเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขัง จากคาดการณ์สภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่าพายุไต้ฝุ่น “โนรู” จะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างบริเวณจังหวัดอำนาจเจริญและอุบลราชธานีในคืนวันที่ 28 กันยายน 2565 ส่งผลทำให้มีฝนตกหนักและมีฝนตกหนักมากหลายพื้นที่บริเวณภาคเหนือภาตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ โดยอิทธิพลของพายุจะส่งผลให้มีปริมาณฝนตกต่อเนื่องสะสม 150 – 250 มิลลิเมตรประกอบกับปัจจุบันในลำน้ำและแหล่งน้ำมีปริมาณน้ำมากอาจส่งผลให้เกิดน้ำหลากน้ำท่วมฉับพลัน จึงขอให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงเพิ่มเติม ในช่วงวันที่ 29 กันยายน – 4 ตุลาคม 2565 จากประกาศฉบับที่ 41/2565 ได้แก่ ภาคเหนือ บริเวณจังหวัดลำปาง ตาก เพชรบูรณ์ และกำแพงเพชร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณจังหวัดอุดรธานี ชัยภูมิ ขอนแก่น ยโสธร นครราชสีมา บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ และมุกดาหาร ภาคกลาง บริเวณจังหวัดลพบุรี และสระบุรี และภาคตะวันออก บริเวณจังหวัดปราจีนบุรี
2. ผลการดำเนินงานตามมาตรการรองรับฤดูฝน ปี 2565
วานนี้ (1 ต.ค.65) ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.)เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภายใต้ กอนช. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัย บริเวณชุมชนวัดหลวง 2 ชุมชนเกตุแก้ว เทศบาลเมืองวารินชำราบ และจุดติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำบริเวณแก่งสะพือ ว่า แม้ว่าพายุ “โนรู” จะอ่อนกำลังและสลายตัวแล้ว แต่ก็ส่งผลกระทบให้เกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำริมสองฝั่งลำน้ำชีและมูลที่ยังคงสูงเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ชุมชน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสภาพอากาศในระยะนี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากยังอยู่ในช่วงฤดูฝนซึ่งถือว่าก็ยังมีความเสี่ยงจากฝนที่ตกลงมาต่อเนื่อง จึงต้องบริหารจัดการน้ำอย่างระมัดระวังโดยคำนึงผลกระทบกับประชาชนส่วนใหญ่และพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญรวมถึงเร่งสำรวจโครงสร้างระบบชลประทาน คันกั้นน้ำ อุปกรณ์เครื่องจักรเครื่องมือให้พร้อมใช้งาน เพื่อเร่งสูบน้ำและระบายน้ำออกจากพื้นที่ท่วมขังให้กลับเข้าสู่ลำน้ำและระบายลงสู่แม่น้ำโขงโดยเร็วที่สุด
3. สถานการณ์น้ำท่วม
สถานการณ์พายุโซนร้อนกำลังแรง “โนรู (NORU)” บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางใต้เล็กน้อย เคลื่อนผ่านสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ลงทะเลจีนใต้ตอนกลาง พายุเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามตอนบน เคลื่อนเข้าประเทศไทยบริเวณ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ในวันที่ 28 กันยายน 2565 เวลา 18.00 น. ส่งผลทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรงบริเวณภาคเหนือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น ระหว่างวันที่ 28 กันยายน – 2 ตุลาคม 2565 มีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 32 จังหวัด ภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ พิษณุโลก สุโขทัย เพชรบูรณ์ พิจิตร และตาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดเลย ชัยภูมิ ขอนแก่น ร้อยเอ็ด มหาสารคาม ยโสธร อุบลราชธานี นครราชสีมา ศรีสะเกษ สุรินทร์ มุกดาหาร บุรีรัมย์ และอำนาจเจริญ ภาคกลาง จังหวัดลพบุรี เพชรบูรณ์ สระบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท สุพรรณบุรี และนครปฐม ภาคตะวันออก จังหวัดชลบุรี ปราจีนบุรี และสระแก้ว