ปักหมุดกินเจ ปรับสมดุลร่างกายตามศาสตร์การแพทย์แผนไทย บรรเทาเจ็บป่วยโรคเรื้อรัง

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แนะทางเลือกกินเจ ตามศาสตร์การแพทย์แผนไทย สร้างสมดุลร่างกายปรับธาตุเจ้าเรือน บรรเทาอาการเจ็บป่วยโรคเรื้อรัง

นายแพทย์ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวถึงเทศกาลกินเจว่า การกินเจ นับเป็นเทศกาลที่ชาวไทย และชาวไทยเชื้อสายจีน ในประเทศไทยให้ความสำคัญ โดยเชื่อว่าการงดเว้นการบริโภคเนื้อสัตว์ เป็นการไม่เบียดเบียนชีวิต เป็นการทำบุญเพื่อชำระล้างใจ ผลส่งให้จิตใจเบิกบานเป็นสุข การกินเจที่เลือกบริโภคอาหารที่เหมาะสมกับภาวะสุขภาพและวัย จะช่วยปรับสมดุลร่างกาย ซึ่งจะเป็นผลดีต่อผู้ป่วยที่เป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง รวมทั้งไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง อาทิ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน หัวใจ เป็นต้น

ตามศาสตร์การแพทย์แผนไทย แบ่งธาตุเจ้าเรือนมนุษย์เราได้ 4 ธาตุ คือ ธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ ซึ่งหากเกิดการเจ็บป่วยมักใช้วิธีปรับสมดุลธาตุทั้ง 4 หนึ่งในวิธีในการปรับธาตุที่สำคัญในทางการแพทย์แผนไทย คือ การปรับการบริโภคอาหาร ดังนั้น เทศกาลกินเจนี้ หากนำหลักการดูแลตนเองด้วยการปรุงเมนูอาหารที่เหมาะสมกับสภาวะโรคและวัยของตนเอง เน้นความสดใหม่ และความสะอาดของอาหาร ไม่เน้น หวาน มัน เค็ม และรับประทานอาหารแต่พอดี ก็จะช่วยให้ร่างกายสมดุลและแข็งแรงได้

การเช็คธาตุเจ้าเรือนว่าตนนั้นธาตุอะไร โดยเช็คจากวันเดือนปีเกิด และเวลา ตกฟากอย่างละเอียด แต่หากจะดูแลสุขภาพในเบื้องต้น อาจเช็คธาตุเจ้าเรือนของเราจากเดือนเกิดง่าย ๆ ดังนี้

ธาตุดิน ได้แก่ผู้ที่เกิดช่วงเดือนตุลาคม – ธันวาคม คนธาตุดิน มักมีร่างกายแข็งแรง ไม่ค่อยเจ็บป่วย ยกเว้นผู้ที่มีโรคทางพันธุกรรม คนกลุ่มนี้สามารถรับประทานอาหารได้ทุกรส ฝาด หวาน มัน เค็ม เจปีนี้จึงควรรับประทานอาหารแต่พอดี

ธาตุน้ำ คือ ผู้ที่เกิดในช่วงเดือนกรกฎาคม – กันยายน จุดอ่อนด้านสุขภาพมักเจ็บป่วยด้วยหวัด เจ็บคอ และ มีเสมหะง่าย ควรปรับสมดุลธาตุด้วยการเน้นรับประทานสมุนไพรรสเปรี้ยวและรสขม โดยสมุนไพรรสเปรี้ยว ช่วยขับเสมหะ บรรเทาอาการไอ ช่วยระบายท้อง เช่น ยอดมะขาม, มะนาว, ผักติ้ว, ใบชะมวง ส่วนสมุนไพรรสขมช่วยลดไข้ เช่น มะเขือพวง, ฝักเพกา, ดอกขี้เหล็ก, ยอดมะเฟือง, สะเดา

ธาตุลม คือ ผู้ที่เกิดในช่วงเดือนเมษายน – มิถุนายน จุดอ่อนด้านสุขภาพ คือ ท้องอืด ท้องเฟ้อ วิงเวียนศีรษะ และปวดเมื่อยได้ง่าย ควรปรับสมดุลธาตุด้วยการเน้นรับประทานสมุนไพรรสเผ็ดร้อน เพราะช่วยขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ กระตุ้นเลือดลมให้ไหลเวียน เช่น ข่า, ตะไคร้, แมงลัก, กะเพรา, โหระพา, พริกไทย

ธาตุไฟ คือ ผู้ที่เกิดในช่วงเดือนมกราคม – มีนาคม จุดอ่อนด้านสุขภาพ คือ มักเป็นไข้ตัวร้อน เป็นแผลร้อนใน เป็นสิว ผิวหนังอักเสบ นอนไม่ค่อยหลับ อารมณ์แปรปรวน ควรปรับสมดุลธาตุด้วยการเน้นรับประทานอาหารที่มีสมุนไพรรสขม จืด เย็น จะช่วยแก้ไข้ ลดความร้อนภายในร่างกาย ช่วยให้นอนหลับสบาย และลดการอักเสบของผิวหนัง เช่น มะระ, ขี้เหล็ก, สะเดา, ฟัก, แฟง, ตำลึง, ผักบุ้ง, แตงกวา เป็นต้น

นายแพทย์ขวัญชัย กล่าวอีกว่า “เมื่อรู้หลักการดังกล่าวแล้วก็นำมาประยุกต์ใช้ในการทำอาหาร เครื่องดื่มสมุนไพรที่เหมาะสมกับตนเองและคนในครอบครัว โดยเน้นอาหารเส้นใยสูงอย่างธัญพืช ผัก ผลไม้ คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ข้าวไม่ขัดสี ข้าวกล้อง อาหารไขมันต่ำ และเต้าหู้ ตลอดเทศกาลกินเจ

สำหรับพืชผักสมุนไพรที่มีกลิ่นฉุน 5 อย่าง กระเทียม หอมใหญ่ แดง ขาว ต้นหอม กุยช่าย หลักเกียว (ผักของจีนมีลักษณะเหมือนกระเทียมโทน) และใบยาสูบ ให้งดเว้นไปก่อน และการปรุงอาหารควรปรุงแต่งรสอาหารให้น้อยที่สุด เพื่อให้คุณค่าทางอาหารและรสชาติยังคงอยู่แบบครบถ้วน และยังช่วยลดสารพิษตกค้างในร่างกาย เท่านี้ช่วงเทศกาลกินเจ นอกจากจะได้รับบุญแล้ว สุขภาพยังแข็งแรง อีกด้วย”

หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่ Call Center 02 5917007 กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก

*************27 กันยายน 2565**************