การลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือว่าด้วยการจัดการศึกษาแก่เด็กและเยาวชนของศาลเยาวชนและครอบครัว

การลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือว่าด้วยการจัดการศึกษาแก่เด็กและเยาวชนของศาลเยาวชนและครอบครัวระหว่าง ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง กับ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

วันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๖๕  เวลา ๑๑ นาฬิกา นายประกอบ ลีนะเปสนันท์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง และนายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือการจัดการแก่เด็กและเยาวชนของศาลเยาวชนและครอบครัว และศาลที่มีอำนาจพิจารณาคดีเยาวชนทั่วราชอาณาจักร

สืบเนื่องจากศาลเยาวชนและครอบครัวทั่วราชอาณาจักรมุ่งเน้นบำบัด แก้ไข ฟื้นฟูให้เด็กและเยาวชนกลับตน เพื่อคืนคนดีสู่สังคม ท่านประกอบ ลีนะเปสนันท์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลางให้ความสำคัญของการศึกษาและอาชีพ โดยเห็นว่า หากเด็กและเยาวชนมีการศึกษา มีอาชีพ จะสามารถ ลดการกระทำความผิดซ้ำได้ ในการพิจารณาคดีพบว่าเด็กหรือเยาวชนที่เข้าสู่กระบวนการของศาลเยาวชนและครอบครัวทั่วราชอาณาจักร ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงวัยเรียนชั้นมัธยมศึกษา บางรายใกล้จบมัธยมต้นแล้วเหลือเพียง ๑-๒ เทอม เมื่อกระทำผิดแล้วก็ไม่เรียนต่อ

ในกรณีที่เด็กหรือเยาวชนกระทำผิดไม่ร้ายแรงและบิดามารดาหรือผู้ปกครองสามารถดูแลได้ ศาลอาจปล่อยตัวและมอบตัวเด็กหรือเยาวชนให้บุคคลดังกล่าวไป โดยจะมีการกำหนดเงื่อนไขต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่ออนาคตของเด็กหรือเยาวชน และส่วนหนึ่งจะกำหนดให้เด็กหรือเยาวชน เข้าศึกษาจนจบมัธยมศึกษาตอนต้น แต่ก็พบปัญหาว่า เด็กหรือเยาวชนไม่สามารถกลับไปเรียนในระบบปกติได้ เนื่องด้วยออกจากระบบมาหลายปี เรียนไม่ทันเพื่อนรุ่นเดียวกัน หรืออายุมากกว่าเพื่อนในห้องที่จะกลับไปเรียน มีปัญหาในการปรับตัว

หรือเด็กและเยาวชนไม่ใส่ใจ ไม่เห็นประโยชน์ในการเรียน แม้ว่าศาลเยาวชนจะได้ทำบันทึกความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้ขยายโอกาสทางการศึกษาแก่เด็กและเยาวชนให้มีทางเลือก ไม่ว่าจะเป็น กศน. อาชีวศึกษา หรือสายอาชีพ โดยไม่ต้องสอบแข่งขันและมีทุนให้เรียนฟรีก็ตาม แต่เด็กหรือเยาวชน ไม่จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ทำให้ไม่สามารถเข้าศึกษาต่อได้

ดังนั้น ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางและสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีเจตนาร่วมกันที่จะให้โอกาสเด็กและเยาวชนของศาลเยาวชนและครอบครัวทั่วราชอาณาจักร จบการศึกษามัธยมศึกษาตอนต้น เพื่อสามารถเรียนต่อด้านอาชีวศึกษาได้ โดยตกลงจะมีการจัดให้มีการประเมินหรือวัดผลการศึกษาพิเศษ โดยไม่จำต้องกลับไปนั่งเรียนสำหรับเด็กหรือเยาวชนที่กระทำความผิดขณะใกล้จบการศึกษาขึ้นโดยเฉพาะให้สามารถจบการศึกษาได้ตามต้องการ