รมช.ประภัตร ลุยมอบเงินเยียวยาเกษตรกรผู้เลี้ยงโค – กระบือ ที่ประสบภัยโรคลัมปี – สกิน (Lumpy Skin Disease : LSD) จ.กาญจนบุรี

รมช.ประภัตร ลุยมอบเงินเยียวยาเกษตรกรผู้เลี้ยงโค – กระบือ ที่ประสบภัยโรคลัมปี – สกิน (Lumpy Skin Disease : LSD) จ.กาญจนบุรี ทั้งชี้แจง “โครงการสานฝันสร้างอาชีพ ยกระดับรายได้เกษตรกร” แก่พี่น้องเกษตรกร

นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยโรคลัมปี – สกิน (Lumpy Skin Disease : LSD) พร้อมชี้แจง “โครงการสานฝันสร้างอาชีพ และยกระดับรายได้เกษตรกร” ณ วัดเขาวัง ต.เลาขวัญ อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี โดยมีนายสมหวัง บุญระยอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้นำภาคประชาชน

ตลอดจนเกษตรกรในพื้นที่ให้การต้อนรับ ว่าจากสถานการณ์การระบาดของโรคลัมปี – สกิน (LSD) ในโค – กระบือนั้น ทางรัฐบาลได้อนุมัติงบกลาง เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการควบคุมโรคลัมปี – สกิน ในโค – กระบือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์ได้ดำเนินการจัดซื้อวัคซีนลัมปี – สกิน และกระจายวัคซีนชุดใหญ่ไปทั่วประเทศ จึงส่งผลให้สถานการณ์การระบาดเป็นไปในทางที่ดีขึ้นและในหลายพื้นที่กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว

รมช.ประภัตร กล่าวว่า สำหรับการมอบเงินเยียวยาในครั้งนี้ จังหวัดกาญจนบุรี ได้รับวงเงินช่วยเหลือเกษตรกร ทั้งสิ้น 28,792,410 บาท ให้แก่เกษตรกร 777 รายใน 11 อำเภอ มีโค – กระบือที่ตายทั้งสิ้นจำนวน 1,431 ตัว เพื่อเป็นการช่วยเหลือและส่งเสริมอาชีพที่เหมาะสมให้กับเกษตรกร โดยเฉพาะการเลี้ยงโครุ่นใหม่ขึ้นมาทดแทนที่เสียหายไปจากการระบาดของโรค และผลักดันให้มีการแก้ไขหลักเกณฑ์ในการจ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกรทั้งด้านพืช ปศุสัตว์ และประมงใหม่ ซึ่งปัจจุบันนี้ได้มีการประกาศใช้หลักเกณฑ์ช่วยเหลือฉบับใหม่ ปี 2564 แล้ว ทำให้เกษตรกรได้รับความช่วยเหลือเพิ่มขึ้นจากเดิม เพื่อฟื้นฟู เยียวยา และเป็นกำลังใจแก่พี่น้องเกษตรกร

 ทั้งนี้ รมช.ประภัตรยังได้ชี้แจงเกี่ยวกับ “โครงการสานฝันสร้างอาชีพ ยกระดับรายได้เกษตรกร” และกำชับให้ส่วนราชการกระทรวงเกษตรฯ ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เร่งประชาสัมพันธ์โครงการและสนับสนุนเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ โดยโครงการสานฝันสร้างอาชีพฯนั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ดำเนินโครงการ

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปล่อยสินเชื่อสำหรับใช้ในการประกอบอาชีพการเกษตร อาชีพนอกภาคเกษตร หรือการลงทุนค้าขาย เพื่อเสริมรายได้ในครัวเรือน เน้นอาชีพที่มีตลาดรองรับชัดเจน มีการประกันราคารับซื้อผลผลิต สามารถสร้างรายได้ในระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน มีวงเงินกู้สูงสุดรายละไม่เกินจำนวน 100,000 บาท แต่ต้องไม่เกินค่าใช้จ่ายและหรือค่าลงทุนจริงของลูกค้าแต่ละราย โดยสามารถยื่นความประสงค์ขอกู้ตามโครงการได้ 2 ช่องทาง ได้แก่

1) ยื่นขอกู้เงินที่ธนาคาร ธ.ก.ส. สาขาที่ตนเองมีภูมิลำเนาหรือที่ตั้งของโครงการ (Walk In)

2) ให้ผู้ขอกู้ลงทะเบียนยื่นขอสินเชื่อผ่านช่องทาง Line Official : BAAC Family และนัดหมายผู้ขอกู้ผ่านระบบนัดหมาย

ซึ่งสามารถขอคำปรึกษาเบื้องต้นได้ที่หน่วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในภูมิลำเนา ได้แก่ สำนักงานเกษตร สำนักงานปศุสัตว์ หรือสำนักงานประมงในท้องที่