สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 2 ก.ย.65 65 เวลา 7.00 น.

+ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนัก

+ ปริมาณฝน 24 ชั่วโมง สูงสุดที่ จ.แพร่ (118) จ.สุราษฎร์ธานี (111) และ จ.นครราชสีมา (58)

+ ปริมาณน้ำ แหล่งน้ำทุกขนาด 51,979 ล้าน ลบ.ม. (63%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 45,432 ล้าน ลบ.ม. (64%) เฝ้าระวังน้ำต่ำกว่าเกณฑ์บริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำ จำนวน 1 แห่ง บริเวณภาคเหนือ เฝ้าระวังน้ำสูงกว่าเกณฑ์บริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำ จำนวน 9 แห่ง ได้แก่ แม่งัด แควน้อยบำรุงแดน อุบลรัตน์ น้ำพุง ขุนด่านฯ บางพระ หนองปลาไหล นฤบดิทราจินดา และบึงบระเพ็ด

 ลุ่มน้ำชี ลำน้ำพรมและลำน้ำเชิญ บริเวณ จ.ชัยภูมิ แม่น้ำชี และลำน้ำพอง บริเวณ จ.ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ยโสธร และร้อยเอ็ด ลำน้ำยัง บริเวณ จ.กาฬสินธุ์ และร้อยเอ็ด

 ลุ่มน้ำมูล แม่น้ำมูล บริเวณ จ.นครราชสีมา ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ลำโดมใหญ่ บริเวณ จ.อุบลราชธานี ลำเซบก บริเวณ จ.อุบลราชธานี

 แม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณชุมชนพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำคลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ปทุมธานี นนทบุรี และกรุงเทพมหานคร

 พื้นที่ประสบอุทกภัย ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ จ.อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา นครนายก ปราจีนบุรี และ อุบลราชธานี

+ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ลงพื้นที่ฉะเชิงเทรา ย้ำรัฐบาล เร่งแผนให้ประชาชนเข้าถึงน้ำประปาสะอาดทุกพื้นที่

พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) พร้อมคณะ ลงพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำบางปะกง และได้เน้นย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการ ดังนี้

 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการตาม 13 มาตรการรับมือฤดูฝนอย่างรอบคอบ และหาแนวทางแก้ไขให้เป็นระบบในระยะยาว

 สทนช. ประสานและบูรณาการขับเคลื่อนแผนหลักการพัฒนาและบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออก ร่วมกับลุ่มน้ำเจ้าพระยา เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ และรายงานต่อ คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.)

 กรมชลประทานเร่งพัฒนาแหล่งน้ำต้นทุนโดยเฉพาะโครงการที่ได้รับงบประมาณ และโครงการสำคัญที่ผ่าน กนช.

 การปรับปรุงเพิ่มความสามารถการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนทดน้ำบางปะกง พร้อมเร่งดำเนินการก่อสร้างแหล่งน้ำที่ได้รับงบประมาณให้แล้วเสร็จตามแผนที่กำหนด เพื่อสามารถบริหารจัดการน้ำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

 การประปาส่วนภูมิภาค ให้วางแผนการใช้น้ำให้ครอบคลุมความต้องการใช้น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคตลอดฤดูแล้งอย่างเพียงพอพร้อมหาแหล่งน้ำสำรองไว้แก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ

 จังหวัดฉะเชิงเทรา ให้เสนอแผนงาน/โครงการสำคัญที่จะแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำให้ครอบคลุมในพื้นที่ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ผ่านอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัด โดยบูรณาการและเร่งสร้างการรับรู้และส่งเสริมให้ภาคประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำในพื้นที่ด้วย