นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์ว่า ในช่วงวันที่ 24 – 26 ส.ค. 65 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ จึงได้กำชับโครงการชลประทานและสำนักเครื่องจักรกล เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำหลาก ตามมาตรการรับมือฤดูฝนปี 65 ที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติกำหนดอย่างเคร่งครัด และคอยเฝ้าระวังติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำท่าตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากในระยะนี้มีฝนตกต่อเนื่องในหลายพื้นที่ โดยให้พิจารณาปรับการระบายน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำในแต่ละพื้นที่ ควบคู่ไปกับการเก็บกักน้ำในอ่างเก็บน้ำให้ได้มากที่สุด เพื่อสำรองน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งหน้า
ปัจจุบัน (25 ส.ค.65) อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 48,147 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 63 ของความจุอ่างฯรวมกัน ยังสามารถรับน้ำได้รวมกันอีกประมาณ 27,941 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 13,032 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 52 ของความจุอ่างฯรวมกัน สามารถรับน้ำได้รวมกันอีกประมาณ 11,839 ล้าน ลบ.ม.
รวมทั้งบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง และจัดเตรียมเครื่องจักรเครื่องมือ พร้อมเจ้าหน้าที่ ประจำจุดพื้นที่เสี่ยงให้สามารถปฏิบัติงานได้ทันที เพื่อลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนให้ได้มากที่สุด