รองปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเกิดอุบัติเหตุคานสะพานกลับรถบนทางหลวงหมายเลข 35

รองปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเกิดอุบัติเหตุคานสะพานกลับรถบนทางหลวงหมายเลข 35 ตอน สะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน – นาโคก พังถล่ม ครั้งที่ 3/2565

นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคม (หัวหน้ากลุ่มภารกิจการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านทางหลวง) เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเกิดอุบัติเหตุคานสะพานกลับรถโครงการบูรณะและปรับปรุงสะพานทางหลวงหมายเลข 35 ตอน สะพานข้ามแม่น้ำท่าจีนฝั่งตะวันตก – นาโคก ตอน 2 จังหวัดสมุทรสาคร พังถล่ม ครั้งที่ 3/2565

โดยมี นายชาครีย์ บำรุงวงศ์ รักษาการที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการขนส่งทางบก นางสาวรัชนีพร ธิติทรัพย์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงคมนาคม นายอภิชาติ จันทรทรัพย์ รองอธิบดีกรมทางหลวง ฝ่ายดำเนินงาน นายพรชัย ศิลารมย์ ผู้อำนวยการศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 3 (ปทุมธานี) นายอภิชัย วชิระปราการพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักก่อสร้างสะพาน กรมทางหลวงชนบท นายเอนก ศิริพานิชกร นายสุกิจ ยินดีสุข และนายอรรถสิทธิ์ ศิริสนธิ ผู้แทนจากสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.) และนายพานิช วุฒิพฤกษ์ ผู้แทนจากสภาวิศวกร เข้าร่วมประชุม ในวันที่ 24 สิงหาคม 2565 ณ ห้องประชุมกระทรวงคมนาคม และผ่านระบบประชุมทางไกล (Video Conference)

นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน กล่าวว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มีข้อสั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินงานตามกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ และกฎหมายต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ คณะกรรมการพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเกิดอุบัติเหตุคานสะพานกลับรถโครงการบูรณะและปรับปรุงสะพานทางหลวงหมายเลข 35 ตอน สะพานข้ามแม่น้ำท่าจีนฝั่งตะวันตก – นาโคก ตอน 2 จังหวัดสมุทรสาคร พังถล่ม เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2565 ครั้งที่ 3/2565 ได้มีการประชุมเพื่อติดตามผลการดำเนินงานในการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว โดยที่ประชุมได้รายงานความคืบหน้าเพิ่มเติม ดังนี้

1. นายเอนก ศิริพานิชกร ผู้แทน วสท. และประธานอนุกรรมการคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อสืบหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ รายงานสรุปผลการสำรวจทางวิศวกรรมกับโครงสร้างสะพาน ณ ปัจจุบัน ที่ได้รับความเสียหายด้วยระบบ Visual Inspection และ 3D Laser Scan พบว่า สภาพของโครงสร้างที่ได้รับความเสียหายได้ถูกรื้อถอนออกหมดแล้ว โครงสร้างส่วนอื่นที่เหลือยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ แต่ต้องมีการสำรวจความแข็งแรงของโครงสร้างในเชิงลึกด้วยวิธีอื่นประกอบ เพื่อความปลอดภัยของการติดตั้งโครงสร้างใหม่โดยเฉพาะ โครงสร้างจุดต่อรับคาน Girder

2. ฝ่ายเลขานุการรายงานว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ ทล. ซึ่งมีวิศวกรใหญ่ด้านควบคุมการก่อสร้างเป็นประธาน ได้เรียกสอบผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องในโครงการแล้ว รวมถึงลงพื้นที่สำรวจ และเก็บข้อมูลหลังเกิดเหตุ โดยจากการตรวจสอบพบว่า คานที่เกิดอุบัติเหตุไม่พบจุดยึดรั้งระหว่างคาน (I-Girder) และคานขวาง (Diaphragm) ซึ่งตามรูปแบบการก่อสร้างจะประกอบด้วย เหล็กเสริมด้านบนและด้านล่างตลอดแนวยาวของคานขวาง และจากการตรวจสอบลักษณะความเสียหายบริเวณรอยต่อของโครงสร้างคานที่เกิดอุบัติเหตุคณะกรรมการได้มีข้อสังเกต ดังนี้

1) สาเหตุของการร่วงหล่นคาดว่า เกิดจากการสูญเสียเหล็กเสริมในโครงสร้างคานขวางระหว่างการรื้อถอนพื้นสะพานเพื่อซ่อมแซมพื้นสะพานแบบ Full Depth ส่งผลให้เกิดแรงบิดในโครงสร้างของคานตัวริม เนื่องจากน้ำหนักเยื้องศูนย์อาจทำให้โครงสร้างสูญเสียเสถียรภาพและหลุดออกจากจุดรองรับ

2) ลักษณะของการเกิดเหตุคาดว่า ไม่มีความเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุเพลิงไหม้รถบรรทุกน้ำมันบนสะพาน เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2547

3. แผนการปรับปรุงสะพานกลับรถในเบื้องต้น ฝ่ายเลขานุการได้รายงานว่า ทล. มีแผนการดำเนินงานในเบื้องต้น โดยจะทำการออกแบบให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2565 และจะลงพื้นที่เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชน พร้อมร่วมกันวางแผนการก่อสร้าง และแผนการจัดการจราจร เป็นต้น ในช่วงเดือนตุลาคม 2565 คาดว่าจะดำเนินการหล่อคานสำเร็จรูป ติดตั้ง และก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคมนี้ โดยก่อนเปิดการจราจรบนสะพานกลับรถ ทล. จะทำการทดสอบการรับน้ำหนักบรรทุกของสะพานตามหลักวิศวกรรมร่วมกับ วสท. เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า สะพานกลับรถดังกล่าวมีความมั่นคงแข็งแรงตามหลักวิศวกรรม

4. สำหรับข้อร้องเรียนของประชาชนเรื่องจุดกลับรถในบริเวณดังกล่าว มีระยะทางไกลและก่อให้เกิดความไม่สะดวกนั้น นายอภิชาติ จันทรทรัพย์ รองอธิบดีกรมทางหลวง แจ้งว่า ทล. อยู่ระหว่างการพิจารณาจุดกลับรถชั่วคราวใหม่ คาดว่าจะใช้เวลาในการพิจารณาประมาณ 2 สัปดาห์ โดยผลการพิจารณาจะแจ้งกระทรวงฯ ทราบต่อไป ทั้งนี้ ในการคัดเลือกจุดกลับรถใหม่หรือการดำเนินงานเพื่อบูรณะสะพานดังกล่าว รองปลัดกระทรวงคมนาคมได้กำชับให้ ทล. ดำเนินการตามหลักการทางวิศวกรรมด้วยความปลอดภัย และมีผลกระทบกับการเดินทางของประชาชนให้น้อยที่สุด

นอกจากนี้ รองปลัดกระทรวงคมนาคมได้สั่งการให้เร่งจัดทำข้อสรุปผลการสอบสวนข้อเท็จจริงพร้อมรวบรวมเอกสารหลักฐานทั้งหมด เพื่อรายงานให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมทราบโดยเร็วที่สุด รวมถึงการดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับมาตรการเยียวยาต่าง ๆ ขอให้ ทล. ดำเนินการตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด และได้มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการจัดทำแผนการดำเนินงานปรับปรุงสะพานกลับรถดังกล่าว โดยแยกเป็นกิจกรรมต่าง ๆ (Action Plan) ตามช่วงเวลาที่จะดำเนินการให้ละเอียด เพื่อนำเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมทราบต่อไป