วันที่ 24 สิงหาคม 2565 เวลา 09.00 น. นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมเจ้าท่า ได้มอบหมายให้ นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ด้านปลอดภัย เป็นประธานการประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นร่างข้อบังคับกรมเจ้าท่าว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขและค่าธรรมเนียมการตรวจและการออกใบสำคัญรับรองการทดสอบรับรองเฉพาะแบบ (Type Approval) พ.ศ. …. (ครั้งที่ 1) จัดโดยสำนักมาตรฐานเรือ กลุ่มมาตรฐานอุปกรณ์ประจำเรือ และมีผู้แทนจาก สำนักกฎหมาย ผู้แทนสถาบันจัดชั้นเรือ สมาคมเจ้าของเรือไทย บริษัทผู้ให้บริการเรือและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เข้าร่วมในการประชุมครั้งนี้ ณ ห้องประชุมวิสูตรสาครดิษฐ์ อาคารใหม่ 162 ปี ชั้น 4 กรมเจ้าท่า และผ่านระบบ Video Conference
กรมเจ้าท่า มีพันธกิจตามอนุสัญญาระหว่างประเทศ ที่ประเทศไทยเป็นภาคี ซึ่งในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2566 ประเทศไทยจะเข้ารับการตรวจประเมินจากองค์การทางทะเลระหว่างประเทศ ตามประมวลข้อบังคับ ว่าด้วยการอนุวัติการตราสารขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ ( III Code ) กรมเจ้าท่าจึงได้เตรียมการเพื่อรองรับการตรวจประเมินดังกล่าว และได้ออกกฎหมายในภาพรวมไปแล้ว อาจยังขาดกฎหมายที่เป็นวิธีปฏิบัติ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการอนุวัติการตราสารระหว่างประเทศ สำนักมาตรฐานเรือ จึงได้ทำการตรวจสอบตราสารระหว่างประเทศ และได้รับคำแนะนำจากที่ปรึกษาต่างประเทศ พบว่ากรมเจ้าท่ายังไม่มีข้อบังคับในการควบคุมวัสดุและอุปกรณ์บนเรือ ให้ได้รับรองการทดสอบรับรองเฉพาะแบบ (Type Approval) ซึ่งปรากฏอยู่ในอนุสัญญาต่างๆ ขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ
จึงเห็นสมควรเสนอร่างข้อบังคับกรมเจ้าท่า ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และค่าธรรมเนียมการตรวจ และออกใบสำคัญรับรองการทดสอบรับรองเฉพาะแบบ (Type Approval) พ.ศ. …. เพื่อให้การอนุวัติการตามพันธกรณี มีความสมบูรณ์มากขึ้น และเพื่อให้เรือเดินทะเลระหว่างประเทศ ที่ชักธงไทยได้รับความเชื่อมั่นและเป็นที่ยอมรับจากต่างประเทศมากขึ้น โดยจัดการประชุมในครั้งนี้ขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และผู้เกี่ยวข้องกับร่างข้อบังคับฉบับนี้ ได้เกิดความเข้าใจให้ข้อเสนอแนะ และเตรียมการ สำหรับดำเนินการตามข้อบังคับได้อย่างถูกต้อง
รองอธิบดี ฯ เปิดเผยว่า กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการตามพันธกรณีในการอนุวัติการตราสารระหว่างประเทศอยู่แล้ว เพื่อให้การตรวจประเมินขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ เกิดผลเชิงบวกต่อประเทศไทย การเตรียมความพร้อมในด้านกฎหมาย จึงมีความสำคัญ ที่จะต้องทำให้ครอบคลุมสมบูรณ์ เพื่อให้การตรวจประเมินขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศเกิดผลเชิงบวกต่อประเทศไทย การเตรียมความพร้อมในด้านกฎหมาย จึงมีความสำคัญ ที่จะต้องทำให้ครอบคลุมสมบูรณ์ จึงเร่งสั่งการให้สำนักมาตรฐานเรือดำเนินการปรับปรุงร่างข้อบังคับให้สามารถบังคับใช้ได้จริง และทำให้ประเทศไทยได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ ในด้านมาตรฐานเรือเดินทะเลระหว่างประเทศ ให้สอดคล้องกับอนุสัญญาระหว่างประเทศต่อไป