กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ขอรายงานสถานการณ์และการบริหารจัดการน้ำ ประจำวันที่ 24 สิงหาคม 2565 ดังนี้

1. ประกาศกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ

ประกาศกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ฉบับที่ 33/2565 ลงวันที่ 23 สิงหาคม 2565 กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ แจ้งเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก และน้ำท่วมฉับพลัน ในช่วงวันที่ 26 – 31 สิงหาคม 25651 ในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม บริเวณอำเภอกันทรวิชัย และเมืองมหาสารคาม จังหวัดกาฬสินธุ์ บริเวณอำเภอกมลาไสย กุฉินารายณ์ ฆ้องชัย และร่องคำจังหวัดร้อยเอ็ด บริเวณอำเภอจังหาร เชียงขวัญ ทุ่งเขาหลวง ธวัชบุรี พนมไพร โพธิ์ชัย โพนทอง เมยวดี เสลภูมิ และอาจสามารถ จังหวัดยโสธร บริเวณอำเภอค้อวัง คำเขื่อนแก้ว มหาชนะชัย และเมืองยโสธร จังหวัดศรีสะเกษ บริเวณอำเภอกันทรารมย์ และยางชุมน้อย จังหวัดอุบลราชธานี บริเวณอำเภอเขื่องใน และเมืองอุบลราชธานี

2. สภาพอากาศ

การคาดการณ์สภาพอากาศในช่วงวันที่ 24 – 26 ส.ค. 65 ร่องมรสุมพาดผ่านบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก

อนึ่ง พายุโซนร้อนกำลังแรง “หมาอ๊อน” (MA-ON) บริเวณด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มจะเคลื่อนลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบนในช่วงวันที่ 23–24 ส.ค. 65 และคาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งด้านตะวันออกของประเทศจีนตอนใต้ ในวันที่ 25 ส.ค. 65 โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทย

3. สถานการณ์น้ำท่วม

ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศลาวตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ ในขณะที่หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศเมียนมาและประเทศลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง และการระบายน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาอาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง

โดยตั้งแต่วันที่ 15 – 23 สิงหาคม 2565 เกิดสถานการณ์ในพื้นที่ 28 จังหวัด (เชียงราย ลําปาง แม่ฮ่องสอน พิษณุโลก เพชรบูรณ์พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิจิตร ลําพูน ตาก นครสวรรค์มหาสารคาม ขอนแก่น ชัยภูมิศรีสะเกษ มุกดาหาร บึงกาฬ ยโสธร อุบลราชธานี อุดรธานี ปราจีนบุรี สระแก้ว พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง พังงา และภูเก็ต) 74 อำเภอ 193 ตำบล 627 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 14,657 ครัวเรือน

ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ 17 จังหวัด (ภาคเหนือ 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ลำปาง พิษณุโลก อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ และแพร่ ภาคกลาง 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อ่างทอง และสุพรรณบุรี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น อุบลราชธานี ชัยภูมิ ร้อยเอ็ด และอุดรธานี และภาคตะวันออก 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี และสระแก้ว)