1. ประกาศกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ
ประกาศกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ฉบับที่ 29/2565 ลงวันที่ 17 สิงหาคม 2565 กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ แจ้งเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก และน้ำท่วมฉับพลัน ในช่วงวันที่ 20 – 22 สิงหาคม 2565 เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก น้ำท่วมขัง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่ง บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขา ของแม่น้ำกก แม่น้ำวัง แม่น้ำยม แม่น้ำน่าน แม่น้ำแควน้อย แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำเลย แม่น้ำชี แม่น้ำมูล แม่น้ำบางปะกง แม่น้ำปราจีนบุรี แม่น้ำตราด แม่น้ำจันทบุรี แม่น้ำสายบุรี แม่น้ำบางนรา และแม่น้ำสุไหงโก-ลก
และเฝ้าระวังแหล่งน้ำและอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ที่มีปริมาตรน้ำสูงกว่าเกณฑ์ปฏิบัติการเก็บกักน้ำสูงสุด (Upper Rule Curve) 10 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำแม่งัดสมบูรณ์ชล กิ่วลม กิ่วคอหมาแควน้อยบำรุงแดน บึงบอระเพ็ด ป่าสักชลสิทธิ์ น้ำพุง อุบลรัตน์ บางพระ และหนองปลาไหล รวมทั้งอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กและขนาดกลางที่มีปริมาตรน้ำมากกว่าร้อยละ 80 และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงน้ำล้นกระทบพื้นที่บริเวณท้ายอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศ
2. สถานการณ์อุทกภัย
จากสถานการณ์ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศลาวตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกําลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ในขณะที่หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศเมียนมาและประเทศลาวตอนบนประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทย ทําให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง และการระบายน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา อาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง ในระหว่างวันที่ 15-17 สิงหาคม 2565เกิดสถานการณ์ในพื้นที่ 17 จ. ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ 9 จ. (จังหวัดพิษณุโลก พิจิตร สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง ฉะเชิงเทรา ขอนแก่น ชัยภูมิ และอุบลราชธานี ) ดังนี้
จังหวัดพิษณุโลก เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องส่งผลให้มีพื้นที่น้ำท่วม 2 อำเภอ ได้แก่ อ.นครไทย และ อ.วังทองคาดว่า 1-2 วัน หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มสถานการณ์จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ
จังหวัดพิจิตร มีพื้นที่น้ำท่วม 2 อำเภอ ได้แก่ อ.สากเหล็ก และ อ.วังทรายพูน คาดว่า 2-3 วัน หากไม่มีฝนตกเพิ่มสถานการณ์จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ
จังหวัดฉะเชิงเทรา มีน้ำท่วมขังนาข้าวสูงประมาณ 0.2-0.3 ม.บริเวณ อ.พนมสารคาม ปัจจุบันระดับน้ำในคลองระบายน้ำยังทรงตัว หากไม่มีปริมาณฝนตกหนักเพิ่มเติม คาดว่าระดับน้ำจะเริ่มลดระดับลง
จังหวัดสุพรรณบุรี มีพื้นที่น้ำท่วม 3 อำเภอ ได้แก่ อ.อู่ทอง อ.เมือง และอ.บางปลาม้า ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังการเกษตรลุ่มต่ำ คาดการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 7-14 วัน
จังหวัดพระนครศรีอยุธยาและอ่างทอง มีพื้นที่น้ำท่วมขังพื้นที่การเกษตรลุ่มต่ำรวม 6 อำเภอ ได้แก่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (อ.บางบาล อ.บางปะหัน อ.เสนา อ.ผักไห่ และ อ.ท่าเรือ) และ จังหวัดอ่างทอง (อ.ป่าโมก) ปัจจุบันกรมชลประทานได้ระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา 1,224 ลบ.ม/วินาที
จังหวัดขอนแก่น มีพื้นที่น้ำท่วม 4 อำเภอ ได้แก่ อ.ชนบท อ.บ้านแฮด อ.บ้านไผ่ และอ.ชุมแพ คาดว่าสถานการณ์ จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติภายใน 1-2 วัน
จังหวัดชัยภูมิ มีพื้นที่น้ำน้ำท่วม 1 อำเภอ ได้แก่ อ.ภูเขียว คาดว่าสถานการณ์ จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติภายใน 1-2 วัน
จังหวัดอุบลราชธานี เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ อ.น้ำยืน และ อ.นาจะหลวย ส่งผลให้น้ำเอ่อล้นลำห้วยและไหลเข้าสู่พื้นที่การเกษตร 2 ฝั่งลำน้ำ ปัจจุบันสถานีวัดน้ำ M.170 บ้านคำสำราญ อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี มีแนวโน้มลดลง