+ ประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนล่าง
+ ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักบริเวณ จ.สระแก้ว (71 มม.) จ.นครศรีธรรมราช (59 มม.) และ จ.เลย (48 มม.)
+ พื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก- ดินถล่ม ในช่วง 1-2 วันนี้ บริเวณ จ.เชียงใหม่ เชียงราย แพร่ น่าน แม่ฮ่องสอน ตาก อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ กาญจนบุรี ลพบุรี สระบุรี ปราจีนบุรี สระแก้ว ระยอง ตราด ระนอง และพังงา + แม่น้ำสายหลัก น้ำน้อยถึงปกติ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนแม่น้ำโขง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
+ ปริมาณน้ำ แหล่งน้ำทุกขนาด 49,750 ล้าน ลบ.ม. (61%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 43,338 ล้าน ลบ.ม. (61%) เฝ้าระวังน้ำต่ำกว่าเกณฑ์บริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำ จำนวน 1 แห่ง บริเวณภาคเหนือ เฝ้าระวังน้ำสูงกว่าเกณฑ์บริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำ จำนวน 9 แห่ง ได้แก่ แม่งัด กิ่วคอหมา กิ่วลม แควน้อย บึงบระเพ็ด ป่าสักชลสิทธิ์ น้ำพุง อุบลรัตน์ และบางพระ
+ ตามประกาศ กอนช. เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก และน้ำท่วมฉับพลันในช่วงวันที่ 20 – 24 ส.ค. 65 หน่วยงานได้ดำเนินการ ดังนี้
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ และแจ้งจังหวัดให้ติดตามสถานการณ์และให้แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้าโดยให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักหรือบริเวณฝนสะสม ซึ่งอาจเกิดอุทกภัยได้ สถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่เสี่ยงจะเกิดภัยให้แจ้งเตือนปิดกั้นพื้นที่ห้ามบุคคลเข้าพื้นที่เด็ดขาด พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยตลอด 24 ชั่วโมง และรายงานผลการดำเนินการแจ้งเตือนภัยของจังหวัดกรมชลประทาน เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ ทั้งในเขตชลประทานและนอกเขตชลประทาน
โดยให้โครงการชลประทานในพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคย เกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำ ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงและความสามารถใช้งานของอ่างเก็บน้ำ อาคารบังคับน้ำ และติดตาม ตรวจสอบ ซ่อมแซม แนวคันบริเวณริมแม่น้ำและกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ พร้อมทั้งเร่งทำการระบายน้ำในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังอยู่เดิม เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับน้ำหลากป้องกันน้ำท่วมให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และ อ่างเก็บน้ำขนาดกลางให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุม
พร้อมทั้งปรับการระบายน้ำให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ รวมถึงเตรียมแผนเผชิญเหตุรับสถานการณ์น้ำหลาก เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ เพื่อบูรณาการความพร้อมให้ความช่วยเหลือได้ทันที