สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 14 ส.ค. 65

+ ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้
+ ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักบริเวณ จ.สงขลา (92 มม.) จ.นครศรีธรรมราช (90 มม.) และ จ.สุราษฎร์ธานี (80 มม.)
+ แม่น้ำสายหลัก น้ำน้อยถึงปกติ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนแม่น้ำโขง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
+ ปริมาณน้ำ แหล่งน้ำทุกขนาด 48,327 ล้าน ลบ.ม. (59%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 42,051 ล้าน ลบ.ม. (59%) เฝ้าระวังน้ำต่ำกว่าเกณฑ์บริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำ จำนวน 1 แห่ง บริเวณภาคเหนือ เฝ้าระวังน้ำสูงกว่าเกณฑ์บริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำ จำนวน 9 แห่ง ได้แก่ แม่งัด กิ่วคอหมา กิ่วลม ป่าสักชลสิทธิ์ อุบลรัตน์ น้ำพุง หนองปลาไหล บางพระ และบึงบระเพ็ด

กอนช. ประกาศฉบับที่ 28/2565 เฝ้าระวังผลกระทบจากระดับน้ำเปลี่ยนแปลงในแม่น้ำโขง ในช่วงวันที่ 14 –18 ส.ค. 65
ตามที่ กอนช. ได้ติดตามสถานการณ์แม่น้ำโขง พบว่าในช่วงวันที่ 11 – 12 ส.ค. 65 มีฝนตกหนักต่อเนื่องบริเวณเหนือพื้นที่แขวงหลวงพระบาง สปป.ลาว คาดการณ์ในช่วง 13 – 14 ส.ค. 65 จะมีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนไซยะบุรี สปป.ลาว ในอัตราประมาณ 9,000 – 10,000 ลบ.ม./วินาที ซึ่งจะส่งผลให้ด้านท้ายเขื่อนไซยะบุรี มีระดับน้ำเพิ่มขึ้น ดังนั้น จึงขอให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงบริเวณริมแม่น้ำโขง ตั้งแต่ จ.เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ที่อาจได้รับผลกระทบจากระดับน้ำแม่น้ำโขงเพิ่มขึ้นประมาณ 1.0 – 2.0 ม. อย่างฉับพลัน ในช่วงวันที่ 14 – 18 ส.ค. 65 และขอให้ประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขงและแจ้งเตือนให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่บริเวณดังกล่าว ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และเตรียมการเฝ้าระวังผลกระทบที่ีอาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำในแม่น้ำโขง

กอนช. ติดตาม หน่วยงานเตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัย ดังนี้
กรมกรมชลประทาน ได้นำเครื่องจักรกลดำเนินการขุดลอกเสริมคันดินบริเวณคลองสาน ในพื้นที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเจ้าเจ็ด-บางยี่หน จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อเสริมคันดินให้สูงขึ้นและเสริมความแข็งแรงของแนวคันดิน เตรียมพร้อมรองรับน้ำหลากในช่วงฤดูฝน และป้องกันน้ำเข้าท่วมนาข้าวที่กำลังจะเก็บเกี่ยว
พร้อมซ่อมแซมคันดินบางจุดที่ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักและติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เร่งระบายน้ำออกจากนาข้าวที่ถูกน้ำท่วมขังบางส่วน