สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 12 ส.ค. 65

+ ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

+ ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักบริเวณ จ.เชียงราย (176 มม.) จ.นครพนม (126 มม.) และ จ.ตราด (117 มม.)

+ แม่น้ำสายหลัก น้ำน้อยถึงปกติ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนแม่น้ำโขง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

+ ปริมาณน้ำ แหล่งน้ำทุกขนาด 47,719 ล้าน ลบ.ม. (58%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 41,485 ล้าน ลบ.ม. (58%) เฝ้าระวังน้ำต่ำกว่าเกณฑ์บริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำ จำนวน 1 แห่ง บริเวณภาคเหนือ เฝ้าระวังน้ำสูงกว่าเกณฑ์บริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำ จำนวน 9 แห่ง ได้แก่ แม่งัด กิ่วคอหมา กิ่วลม ป่าสักชลสิทธิ์ อุบลรัตน์ น้ำพุง หนองปลาไหล บางพระ และบึงบระเพ็ด

+ กอนช. ประกาศเฝ้าระวังผลกระทบจากระดับน้ำเปลี่ยนแปลงในแม่น้ำโขง ฉบับที่ 27/2565 ระดับน้ำในแม่น้ำโขงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงวันที่ 13 – 18 ส.ค. 65

 สถานีเชียงแสน จ.เชียงราย ในช่วงวันที่ 13–14 ส.ค. 65 ประมาณ 0.80 – 1.20 เมตร แต่ยังคงต่ำกว่าระดับตลิ่ง

 ตั้งแต่สถานีเชียงคาน จ.เลย จนถึงสถานีนครพนม จ.นครพนม คาดการณ์ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น ในช่วงวันที่ 13 – 17 ส.ค. 65 ประมาณ 1.00 – 1.50 เมตร แต่ยังคงต่ำกว่าระดับตลิ่ง

 ตั้งแต่สถานีมุกดาหาร จ.มุกดาหาร จนถึงสถานีโขงเจียม จ.อุบลราชธานี คาดการณ์ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น ในช่วงวันที่ 15 – 18 ส.ค. 65 ประมาณ 0.80 – 1.00 เมตร แต่ยังคงต่ำกว่าระดับตลิ่ง

ทั้งนี้ กอนช.ขอให้จังหวัดเชียงราย เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขงและแจ้งเตือนให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่บริเวณดังกล่าว ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และเตรียมการเฝ้าระวังผลกระทบที่ีอาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำในแม่น้ำโขง

+ ตามที่ กอนช. ได้มีประกาศแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่ง รวมถึงอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีปริมาตรน้ำสูงกว่าเกณฑ์ปฏิบัติการอ่างเก็บน้ำกักเก็บสูงสุด (Upper Rule Curve) โดยกรมชลประทานได้ปรับการควบคุมระดับน้ำและปริมาณน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ดังนี้

 เขื่อนกิ่วคอหมา ระบายน้ำในอัตราประมาณ 60-150 ลบ.ม./วินาที ตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค. 65 เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป

 เขื่อนกิ่วลม ระบายน้ำในอัตราประมาณ 100-150 ลบ.ม./วินาที ตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค. 65 เวลา 06.00 น. เป็นต้นไป

 เขื่อนเจ้าพระยา ปรับเพิ่มอัตราการระบายน้ำในช่วง 1,100-1,400 ลบ.ม./วินาที ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ริมน้ำมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่บริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ถึงบริเวณ ต.กระทุ่ม ต.หัวเวียง อ.เสนา และ ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา อีกประมาณ 0.20-0.60 เมตร