กระทรวงคมนาคม ให้สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยและกลุ่มคนรักถนนพระราม 2 เข้าหารือมาตรการความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน

กระทรวงคมนาคม ให้สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยและกลุ่มคนรักถนนพระราม 2 เข้าหารือมาตรการความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนบริเวณที่มีโครงการก่อสร้างทั่วประเทศ

นายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคม ได้รับมอบหมายจาก นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้ นายอภิชาต ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ผู้แทนประชาชน และผู้ประกอบการจากกลุ่มคนรักถนนพระราม 2 เข้าพบ เพื่อยื่นหนังสือและร่วมหารือมาตรการความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนบริเวณที่มีโครงการก่อสร้าง สืบเนื่องมาจากกรณีอุบัติเหตุบนทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง

โดยมี นายมนตรี เดชาสกุลสม รองอธิบดีกรมทางหลวง นายอภิชัย ธีระรังสิกุล รักษาการวิศวกรใหญ่ (ด้านควบคุมการก่อสร้าง) และนายอภิชัย วชิระปราการพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักก่อสร้างสะพาน กรมทางหลวงชนบท เข้าร่วมหารือ ณ ห้องประชุมกระทรวงคมนาคม ในวันที่ 11 สิงหาคม 2565

นายวิรัช พิมพะนิตย์ กล่าวว่า จากกรณีอุบัติเหตุบนทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) บริเวณโครงการก่อสร้างและปรับปรุงเส้นทางในความรับผิดชอบของกระทรวงฯ ที่เกิดขึ้นอุบัติเหตุบ่อยครั้ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมมีความห่วงใยต่อประชาชนและผู้ประกอบการที่ใช้เส้นทางในบริเวณดังกล่าว และมีความมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาการจราจรบนถนนพระราม 2 อย่างต่อเนื่อง

โดยได้มีข้อสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ ที่มีโครงการก่อสร้างพื้นฐานทางถนน ได้แก่ กรมทางหลวง (ทล.) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เน้นย้ำและให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยของประชาชนผู้ใช้เส้นทางและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด ซึ่งในวันนี้ (11 สิงหาคม 2565) ผู้แทนสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยและกลุ่มคนรักถนนพระราม 2 ได้เข้าพบเพื่อยื่นหนังสือและร่วมหารือมาตรการความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนที่มีโครงการก่อสร้างทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนถนนพระราม 2

โดยกลุ่มผู้แทนมีความกังวลเรื่องความปลอดภัยในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีการก่อสร้างและได้มีข้อเสนอแนะให้มีการปรับปรุง และเข้มงวดการบังคับใช้มาตรการด้านความปลอดภัยต่าง ๆ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่จะส่งผลเสียต่อชีวิต และทรัพย์สินของผู้ใช้เส้นทาง อาทิ ไฟฟ้าส่องสว่าง สัญญาณไฟกะพริบ ป้ายแจ้งเตือน ป้ายนำทาง หรือกรวยยาง ก่อนเข้าพื้นที่ก่อสร้าง ปัญหาน้ำขังในพื้นผิวการจราจร และการตรวจจับรถบรรทุกที่น้ำหนักเกินกว่าพิกัดที่กฎหมายกำหนด เป็นต้น

ในการนี้ นายมนตรี เดชาสกุลสม ได้แจ้งความคืบหน้าในการดำเนินงาน ณ ปัจจุบันว่า นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง ได้สั่งการให้ผู้รับเหมาในความรับผิดชอบของ ทล. หยุดการก่อสร้าง ตั้งแต่วันที่ 8 – 12 สิงหาคม 2565 เพื่อตรวจสอบมาตรฐานการทำงาน และเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2565 ทล. ได้ลงพื้นที่ประชุมติดตามและตรวจสอบความปลอดภัยในโครงการก่อสร้างบนถนนพระราม 2 จำนวน 14 โครงการ โดยบริษัทผู้รับเหมาได้ให้ความมั่นใจว่า ในช่วงที่ ทล. สั่งให้หยุดงานจะเพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยทางถนนและความปลอดภัยในพื้นที่ก่อสร้างอย่างเคร่งครัด ตามที่ ทล. ได้กำหนดไว้ ซึ่งได้มีการปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยเบื้องต้นแล้ว ได้แก่

1) จัดเรียงแบริเออร์ให้เรียบร้อยไม่มีช่องว่างและจุดหักมุม

2) ทำความสะอาดเศษดินและกำจัดวัชพืชบนผิวทาง ให้มองเห็นเส้นการจราจรเด่นชัด

3) ปิดทางเข้าออกในพื้นที่ก่อสร้างที่ไม่จำเป็น

4) ตรวจสอบและแก้ไขม่านบังตาให้ครบถ้วนและพร้อมใช้งาน

5) ตรวจสอบไฟนีออนส่องสว่าง ไฟกะพริบ ไฟแจ้งเตือน บริเวณทางเบี่ยงและทางแยกอันตรายให้พร้อมใช้งาน

6) ตรวจสอบฐานและแก้ไขเสาไฟฟ้าส่องสว่างชั่วคราวให้มีความมั่นคงไม่ล้มเอียง

7) ติดตั้งแผงผ้าใบและ Metal Sheet กันเศษวัสดุจากการก่อสร้างกระเด็นโดนรถของประชาชนผู้ใช้เส้นทาง

นายอภิชัย ธีระรังสิกุล ได้กล่าวถึง การดำเนินงานของ ทช. ได้กำหนดให้บริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างจัดส่งแผนการดำเนินงานด้านความปลอดภัยก่อนเข้าพื้นที่ปฏิบัติงาน และมีการจำกัดเวลาเข้าพื้นที่ในช่วงเวลากลางคืนเพื่อไม่ให้กระทบการสัญจรของประชาชน รวมถึงมีการประชาสัมพันธ์การก่อสร้างโครงการต่าง ๆ ผ่านสื่อมวลชนและหน่วยงานในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องล่วงหน้าเพื่อแจ้งเตือนให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทาง

นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้แต่งตั้งคณะกรรมการระดับกระทรวงขึ้น 2 คณะ โดยคณะกรรมการพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ดำเนินการตรวจสอบหาสาเหตุและกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาในโครงการบูรณะและปรับปรุงสะพานกลับรถบนถนนพระราม 2 ตอน สะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน – นาโคก ที่ กม. 34+000 ในระยะเร่งด่วน

โดยกระทรวงฯ ได้รับความร่วมมือจากสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.) ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงและตรวจสอบหาสาเหตุของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อรายงานผลให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมทราบโดยเร็ว และในการดำเนินงานระยะยาว คณะกรรมการจัดระเบียบมาตรการควบคุมงานก่อสร้างของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ จะดำเนินการกำหนดมาตรการและแนวปฏิบัติด้านความปลอดภัยสำหรับโครงการก่อสร้างทุกมิติการเดินทาง เพื่อปรับปรุง พัฒนาและยกระดับความปลอดภัยในโครงการก่อสร้าง ความปลอดภัยของประชาชนผู้ใช้เส้นทาง และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานตลอดเวลา

ทั้งนี้ กระทรวงฯ ยินดีรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนเพื่อให้ความร่วมมือในการปรับปรุงแก้ไขปัญหาการดำเนินงานต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกปลอดภัยแก่ประชาชนผู้ใช้เส้นทาง

ในการนี้ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้กล่าวขอบคุณกลุ่มผู้แทนที่สะท้อนปัญหาต่าง ๆ ให้ทราบ พร้อมมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณานำข้อกังวลและข้อเสนอจากการหารือในครั้งนี้ไปปรับปรุงแนวทางป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นบริเวณโครงการก่อสร้างในความรับผิดชอบของกระทรวงฯ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ พร้อมทั้งรายงาน ความคืบหน้าการดำเนินงานให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมทราบต่อไป