“สถาบันนิติวิทยาศาสตร์” จับมือ “มูลนิธิอนุศาสตร์สงเคราะห์”ลงนามยกระดับการจัดการศพนิรนามภายหลังการชันสูตร หวังสร้างเป็นต้นแบบให้เป็นมาตรฐาน

“สถาบันนิติวิทยาศาสตร์” จับมือ “มูลนิธิอนุศาสตร์สงเคราะห์”ลงนามยกระดับการจัดการศพนิรนามภายหลังการชันสูตร หวังสร้างเป็นต้นแบบให้เป็นมาตรฐาน หลังปัจจุบันยังเจอปัญหาเก็บศพนิรนามไม่เป็นระบบ “ทรงศักดิ์”ชี้ จะช่วยให้การติดตามศพนิรนามของประชาชนสะดวกขึ้น

วันที่ 10 สิงหาคม 2565 พันตำรวจเอกทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้ร่วมกับ มูลนิธิอนุศาสตร์สงเคราะห์ จังหวัดชลบุรี ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เรื่องการบูรณาการและพัฒนามาตรฐานการจัดการศพภายหลังการชันสูตร โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างต้นแบบนำร่องในการสร้างรูปแบบมาตรฐานการจัดการศพนิรนามภายหลังการชันสูตร ที่อยู่ในความดูแลของมูลนิธิภาคประชาสังคม ซึ่งมี นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายชัยจิตร รัฐขจร ประธานมูลนิธิอนุศาสตร์สงเคราะห์ พันตำรวจเอกไพสิฐ วงศ์เมือง อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้าร่วม

โดยพันตำรวจเอกทรงศักดิ์ กล่าวว่า มูลนิธิอนุศาสตร์สงเคราะห์ จะมีการดำเนินงานและพัฒนารูปแบบมาตรฐานที่เหมาะสมกับสังคมไทย ร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ที่จะมีการจัดทำข้อมูลการศึกษา เพื่อจัดทำเป็นข้อเสนอเชิงนโยบายในการขับเคลื่อนงานด้านการติดตามคนหายและการพิสูจน์ศพนิรนามของประเทศ ต่อคณะกรรมการพัฒนาระบบการติดตามติดตามคนหายและการพิสูจน์ศพนิรนาม (ค.พ.ศ.) และสามารถขยายขอบเขตการพัฒนาต้นแบบนี้ไปยังเครือข่ายมูลนิธิภาคประชาสังคมที่มีสุสานในการฝังศพไร้ญาติและศพนิรนามได้อีกด้วย

ขณะเดียวกัน การสร้างต้นแบบนี้ มีการออกแบบเพื่อรองรับการนำเทคโนโลยีในการตรวจสอบย้อนกลับมาใช้ในระบบบริหารจัดการศพ และการบันทึกข้อมูลในฐานข้อมูลกลางในการจัดเก็บและสืบค้นข้อมูลบุคคลสูญหายและการพิสูจน์ศพนิรนาม ที่เรียกสั้นๆ คือ “ระบบ CIR” ไว้ด้วย

“ทุกวันนี้ เรายังพบปัญหาที่มาจากการบริหารจัดการศพนิรนามภายหลังการชันสูตรศพที่ยังคงมีอยู่ ซึ่งมีข้อจำกัดในการเก็บข้อมูลของศพนิรนามที่ยังไม่เป็นระบบ การเชื่อมโยงข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐที่ยังไม่เป็นหนึ่งเดียว จากเหตุนี้ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ในฐานะฝ่ายเลขานุการฯ ค.พ.ศ. ที่มีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้เน้นย้ำและผลักดันการจัดทำระบบการจัดการศพนิรนามภายหลังการชันสูตรให้เป็นมาตรฐาน

ดังนั้น ความสำคัญของการลงนามบันทึกข้อตกลงในวันนี้ จะเป็นการยกระดับมาตรฐานในการจัดการศพนิรนามภายหลังการชันสูตร เพื่อให้การติดตามหรือตรวจสอบข้อมูลศพนิรนามของประชาชนจะสะดวกมากขึ้น ไม่ต้องเดินทางไปหลายแห่ง ช่วยลดภาระของประชาชนด้วย นอกจากนี้ สถาบันฯ อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูลในการยกระดับกฎหมายในด้านการติดตามคนหาย การพิสูจน์คนนิรนามและศพนิรนามของประเทศ ซึ่งในอนาคต ประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับการอำนวยความสะดวกในการบริการมากขึ้น” ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าว

ขณะที่ นายชัยจิตร รัฐขจร ประธานมูลนิธิอนุศาสตร์สงเคราะห์ กล่าวว่า มีความยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการเป็นต้นแบบของยกระดับมาตรฐานในการจัดการศพนิรนามภายหลังการชันสูตร ซึ่งถือเป็นงานที่มูลนิธิภาคประชาสังคมสามารถให้ความร่วมมือกับภาครัฐได้ ซึ่งมูลนิธิอนุศาสตร์สงเคราะห์ ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้ลงนามบันทึกข้อตกลง โดยจะมีการดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่องกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ อย่างเป็นรูปธรรม