กรมพินิจฯ รับมอบ พลังงานสะอาด (Solar pump) จาก การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในโครงการ PEA พลังงานสะอาดเพื่อชุมชน เนื่องในโอกาสมหามงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เฉลิมพระชนมพรรษา ๙๐ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๕
วันที่ 9 สิงหาคม 2565 เวลา 09.30 น. กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม ร่วมกับ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จัด “โครงการ PEA พลังงานสะอาดเพื่อชุมชน เนื่องในโอกาสมหามงคลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565”
ทั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก นายภานุมาศ ลิ้มสุวรรณ รองผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค พร้อมด้วย พ.ต.ท. วรรณพงษ์ คชรักษ์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และนายชยชัย แสงอินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ร่วมเปิดงาน โดยมี นายโกมล พรมเพ็ง รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน นายภักดี วงษาพรหม ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 3 ภาคกลาง จังหวัดนครปฐม และนายวีร์ กี่จนา ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด พระนครศรีอยุธยา ตลอดจนคณะผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่กรมพินิจฯ และการไฟฟ้าฯ ร่วมพิธีด้วย ณ ศูนย์การเรียนรู้ด้านการเกษตรตามแนวปรัชญาเกษตรทฤษฎีใหม่ เพื่อยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชนที่ยั่งยืน ตำบลคลองโยง อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
พ.ต.ท. วรรณพงษ์ คชรักษ์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กแลเยาวชน กล่าวต้อนรับคณะผู้บริหารและผู้ร่วมงานว่า ในนามของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม ตนรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้รับเกียรติจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในการร่วมจัด “โครงการ PEA พลังงานสะอาดเพื่อชุมชน สนับสนุนติดตั้งระบบสูบน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ เนื่องในโอกาสมหามงคลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565” เพื่อแสดงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน มีภารกิจในการแก้ไขบำบัดฟื้นฟูเด็กและเยาวชน ให้สามารถกลับตนเป็นคนดีกลับคืนสู่สังคม ซึ่งกรมพินิจฯ ได้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ด้านการเกษตรตามแนวทางปรัชญาเกษตรทฤษฎีใหม่ เพื่อยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชนที่ยั่งยืน โดยจัดตั้งขึ้นบนพื้นฐานของแนวคิด 3 ด้าน ประกอบด้วย
1) ศูนย์การเรียนรู้ด้านการเกษตร
2) ปรัชญาเกษตรทฤษฎีใหม่
3) การยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชน
อีกทั้งเป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้ด้านการเกษตร และสถานที่สาธิตด้านกสิกรรมต่างๆ อาทิ การเพาะปลูก การปศุสัตว์ การคิดค้น พัฒนา และต่อยอดนวัตกรรมด้านการเกษตรที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการได้รับการสนับสนุนระบบสูบน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ถือได้ว่าเป็นเสมือนการคิดค้น ต่อยอด และพัฒนานวัตกรรมโดยการใช้พลังงานทดแทน อันจะสามารถสร้างการเรียนรู้และยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่เยาวชนได้อย่างยั่งยืนต่อไป
ด้าน นายภานุมาศ ลิ้มสุวรรณ รองผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กล่าวเปิดโครงการว่า โครงการ PEA พลังงานสะอาดเพื่อชุมชน เนื่องในโอกาสมหามงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 เพื่อร่วมแสดงความจงรักภักดีและสำนึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ โดยพิธีเปิดในวันนี้มีกิจกรรม ดังนี้
1. ติดตั้งระบบสูบน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Pump) เพื่อสูบน้ำใช้ปลูกพืชผลทางการเกษตร เลี้ยงสัตว์ และอุปโภคบริโภคภายในศูนย์การเรียนรู้ด้านการเกษตร ตามแนวปรัชญาเกษตรทฤษฎีใหม่ เพื่อยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชนที่ยั่งยืน
2. เยี่ยมชมโรงเรือนเพาะปลูกต้นกระบองเพชร
3. เยี่ยมชมระบบส่องสว่างในฟาร์มไก่
4. ปลูกต้นไม้ พันธุ์ไม้ยืนต้น จำนวน 90 ต้น พร้อมอุปกรณ์ในการปลูก
5. ปล่อยพันธุ์ปลา
และท้ายที่สุด ตนหวังว่า การจัดโครงการ PEA พลังงานสะอาดเพื่อชุมชนฯ ในครั้งนี้ จะสำเร็จลุล่วงด้วยดี ตามเป้าหมาย และขอให้ท่านทั้งหลาย ทำงานด้วยความระมัดระวัง คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลักสำคัญ
“โครงการ PEA พลังงานสะอาดเพื่อชุมชน เนื่องในโอกาสมหามงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565” มีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 และเพื่อยกระดับ พัฒนาคุณภาพชีวิต และส่งเสริมอาชีพให้กับเด็กและเยาวชนตามแนวปรัชญาเกษตรทฤษฎีใหม่
อีกทั้งเพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน ตลอดจนเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ ศึกษาดูงานให้เด็กและเยาวชนที่ต้องการสร้างรายได้ในพื้นที่ใกล้เคียงได้ศึดษาเรียนรู้ และสามารถนำไปต่อยอดและพัฒนาคุณภาพชีวิตได้อย่างยั่งยืนต่อไป