ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์ล่าสุด ลดลงกว่า 5-8 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล จากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกที่อาจชะลอตัว โดยกำลังซื้อของประชาชนลดลงจากสภาวะเงินเฟ้อ อาจทำให้อุปสงค์น้ำมันชะลอตัว ขณะที่ธนาคารกลางทั่วโลกต่างเร่งเพิ่มอัตราดอกเบี้ย เพื่อลดแรงกดดันจากสภาวะเงินเฟ้อข้างต้น
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานยอดขาดดุลการค้า (Trade Deficit) ในเดือน มิ.ย. 65 ลดลง 6.2% MoM อยู่ที่ 79,600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่หน่วยงานศุลกากรของจีน (General Administration of Customs) รายงานยอดดุลการค้า (Trade Balance) ในเดือน ก.ค. 65 เกินดุลเพิ่มขึ้น 3,320 ล้านเหรียญสหรัฐฯ MoM อยู่ที่ 1.01 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ สูงสุดเป็นประวัติการณ์
ท่ามกลางความตึงเครียดทางการเมืองโลก โดยเฉพาะระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ในประเด็นไต้หวัน เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมากองทัพจีนแถลงว่าจะซ้อมรบทางฝั่งตะวันออกทะเลเหลืองช่วง 7-15 ส.ค. 65 และทะเล Bohai ช่วง 8 ส.ค.- 8 ก.ย. 65 หลังจากซ้อมรบครั้งใหญ่รอบไต้หวันช่วง 4-7 ส.ค. 65 โดยใช้กระสุนจริง ตอบโต้ที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ Nancy Pelosi ไปเยือนไต้หวัน เมื่อ 2 ส.ค. 65
ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในจีน หลังรัฐบาลสั่ง Lockdown เมือง Sanya ซึ่งเป็นเมืองตากอากาศบนเกาะ Hainan ทางตอนใต้ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวราว 80,000 ราย ในช่วง peak season ในวันที่ 6 ส.ค. 65 โดยมีรายงานผู้ติดเชื้อบนเกาะ Hainan อยู่ที่ 263 ราย เมื่อวันศุกร์ที่ 5 ส.ค. 65
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ
4 ส.ค 65 คณะกรรมการนโยบายการเงินของอังกฤษ (Monetary Policy Committee) มีมติให้ธนาคารกลาง (Bank of England) ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 50% อยู่ที่ 1.75%
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของลิเบีย นาย Mohamed Oun ระบุการผลิตน้ำมันที่กลับมาดำเนินการหลังเหตุประท้วง เพิ่มสู่ระดับ 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากต้นเดือน ก.ค. 65 ที่ 400,000 บาร์เรลต่อวัน
Reuters รายงานรัสเซียผลิตน้ำมันดิบ ในเดือน มิ.ย. 65 เพิ่มขึ้น 510 KBD MoM มาอยู่ที่ 78 MMBD
3 ส.ค. 65 ที่ประชุม Joint Ministerial Monitoring Committee (JMMC) ของกลุ่ม OPEC+ มีมติเพิ่มโควตาการผลิตน้ำมันดิบในเดือน ก.ย. 65 ที่ 101,000 บาร์เรลต่อวัน ทำให้โควตารวมอยู่ที่ 96 ล้านบาร์เรลต่อวัน
EIA ของสหรัฐฯ รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์ สัปดาห์สิ้นสุด 29 ก.ค. 65 เพิ่มขึ้น 5 ล้านบาร์เรล จากสัปดาห์ก่อนหน้า อยู่ที่ 426.6 ล้านบาร์เรล สูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ และอุปสงค์ Gasoline ลดลง 700,000 บาร์เรลต่อวัน จากสัปดาห์ก่อนหน้า อยู่ที่ 8.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก
กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบทางยุทธศาสตร์ (Strategic Petroleum Reserve: SPR) สัปดาห์สิ้นสุด 29 ก.ค. 65 ลดลง 6 ล้านบาร์เรล จากสัปดาห์ก่อนหน้า อยู่ที่ 469.9 MMB ต่ำสุดในรอบ 37 ปี
Caspian Pipeline Consortium (CPC) ในคาซัคสถาน ซึ่งดำเนินการท่อขนส่งน้ำมันดิบ (6 MMBD) ที่เชื่อมกับท่าเรือส่งออก Novorossiysk ของรัสเซียในทะเลดำ แถลงอุปทานในระบบลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และ Reuters รายงานเมื่อ 3 ส.ค. 65 ว่าแหล่ง Kashagan (400,000 บาร์เรลต่อวัน) ผลิตน้ำมันลดลง 80% อยู่ที่ 27,000 บาร์เรลต่อวัน จากเหตุขัดข้องทางเทคนิค
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานยอดจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm Payrolls) เดือน ก.ค. 65 เพิ่มขึ้น 528,000 ราย จากเดือนก่อนหน้า ขณะที่อัตราว่างงาน (Unemployment Rate) ลดลง 1% จากเดือนก่อนหน้า อยู่ที่ 3.5% ต่ำสุดตั้งแต่ ก.พ. 63