สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 26 ก.ค. 65

+ ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองลดลง ส่วนภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง

+ ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา จ.กระบี่ (74 มม.) จ.พิษณุโลก (67 มม.) และ จ.ระนอง (64 มม.)

+ แม่น้ำสายหลัก น้ำน้อยถึงปกติ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นส่วนแม่น้ำโขง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

+ ปริมาณน้ำ แหล่งน้ำทุกขนาด 45,795 ล้าน ลบ.ม. (56%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 39,786 ล้าน ลบ.ม. (56%) เฝ้าระวังน้ำน้อย บริเวณภาคเหนือ (3 แห่ง) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (1 แห่ง)

+ พื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก- ดินถล่ม ในช่วง 1-2 วันนี้ บริเวณ จ.เชียงราย เชียงใหม่ พิษณุโลก ตาก และพังงา

+ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกำชับหน่วยงาน เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำใกล้ชิด พร้อมช่วยเหลือประชาชนทันท่วงที เตือนเกษตรกรเส้นทางน้ำหลากเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิต และติดตามประกาศราชการ

วันที่ 25 ก.ค.65 โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่านายกรัฐมนตรี ได้ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมขังฉับพลันจากฝนตกหนักในพื้นที่หลายจังหวัดของประเทศ โดยกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.)ได้สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ ล่าสุดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ฝั่งตะวันตก มีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก-ดินถล่ม ในช่วง 1-2 วันนี้ บริเวณ 9 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และหนองคาย

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ) ได้รายงานสถานการณ์น้ำท่วมตั้งแต่วันที่ 20 – 24 ก.ค. 65 เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 14 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำปาง อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก พิจิตร ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา ระยอง ชลบุรี สมุทรปราการ นนทบุรี และยะลารวม 20 อำเภอ 29 ตำบล 65 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ392 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 2 ราย (ชลบุรี) ปัจจุบันภาพรวมสถานการณ์คลี่คลายแล้ว

นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขัง โดยได้เน้นย้ำให้ ปภ. จังหวัด หน่วยทหาร ส่วนราชการ ป้องกันและบรรเทาผลกระทบให้กับประชาชนทันทีเมื่อเกิดภัยตามที่หน่วยงานต่าง ๆ ได้จัดทำแผนปฏิบัติการรับมือไว้ล่วงหน้าแล้ว ให้คลี่คลายสถานการณ์เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ท่วมขัง พร้อมทั้งให้จังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ดูแลให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย และสำรวจและประเมินความเสียหายหลังน้ำลด เพื่อดำเนินการช่วยเหลือประชาชนตามระเบียบของทางราชการต่อไป