รมว.ยุติธรรม ไม่ทิ้งงานไกล่เกลี่ย โชว์สปิริตวีดีโอคอนเฟอเร็นซ์เปิดงานสมุทรสงครามจากรัฐสภา ขอโทษไม่ได้ไปเองเหตุติดภารกิจสำคัญ แต่ยันประสิทธิภาพงานไม่ลดลง แนะประชาชนคำนวณ ยอดหนี้ดีๆ แล้วกล้าต่อรอง เพราะที่ผ่านมาสำเร็จมากกว่า 93% สองแม่ค้าปลื้มออมสินลดดอกเบี้ย 100%
เมื่อวันที่ 19 ก.ค. เวลา 09.30 น. ที่โรงแรมริเวอร์ตัน จ.สมุทรสงคราม มีการจัดงานงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน ครั้งที่ 48 และยุติธรรมพบประชาชน จ.สมุทรสงคราม มีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดงาน โดยวีดีโอ คอนเฟอเร็นซ์จากรัฐสภา และมีนายขจร ศรีชวโนทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม นายศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม นายเกิดโชค เกษมวงศ์จิตร รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม และประชาชนร่วมงานจำนวนมาก โดยก่อนเข้างานมีการคัดกรองโควิด-19 อย่างเข้มงวด
นายสมศักดิ์ กล่าวเปิดงานว่า ปกติตนจะพยายามเดินทางไปเปิดงานไกล่เกลี่ยด้วยตนเองในทุกจังหวัด ถึงแม้วันนี้ตนอยากจะไปสมุทรสงคราม แต่ตนติดภารกิจสำคัญที่รัฐสภา ในการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี 11 ท่าน รวมทั้งท่านนายกรัฐมนตรีด้วย ซึ่งแม้ว่าตนจะไม่ได้ถูกอภิปราย แต่ก็ต้องอยู่ช่วยชี้แจงคำถามบางคำถามในส่วนที่เกี่ยวข้องที่ ส.ส.อภิปรายรัฐมนตรีแต่ละท่านด้วย แต่ด้วยความรับผิดชอบงานมหกรรมไกล่เกลี่ยที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้จำนวนมาก วันนี้ตนจึงวีดีโอคอนเฟอเร็นซ์ทางไกลจากรัฐสภา
ซึ่งตนต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้มาด้วยตนเอง แต่การไกล่เกลี่ยในครั้งนี้จะไม่ได้ลดประสิทธิภาพลงไปเลย ขอให้ผู้ที่เข้าร่วมการไกล่เกลี่ยทุกท่านกล้าที่จะต่อรอง ขอลด ขอผ่อนผันได้เต็มที่ ทางสถาบันการเงินพร้อมที่จะช่วยเหลือเต็มที่อยู่แล้ว อะไรที่ไม่เคยได้เห็นในเรื่องของการไกล่เกลี่ยก็จะได้เห็น ซึ่งที่ผ่านมาเปอร์เซ็นการไกล่เกลี่ยสำเร็จสูงมาก
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับเป้าหมายประชาชนที่เข้าร่วมงานครั้งนี้มี 3,309 ราย ทุนทรัพย์ทั้งสิ้น 265 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้เราจัดงานมาแล้ว 47 ครั้ง ลูกหนี้ขอไกล่เกลี่ย 37,326 ราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 34,783 ราย คิดเป็นร้อยละ 93.19 ลดค่าใช้จ่ายประชาชน 3,033 ล้านบาท โดยปัญหาหนี้สินของคนที่เข้าร่วมการไกล่เกลี่ยที่ผ่านมา เรามักจะพบว่า เขาส่งผ่อนบ้างไม่ส่งบ้าง ทำให้เงินที่ส่งนั้นกลายเป็นเงินส่งดอกเบี้ย เงินต้นไม่ลด แต่การมางานไกล่เกลี่ยครั้งนี้ สิ่งที่จะได้คือการนำเงินที่ส่งดอกเบี้ยเหล่านั้นมาหักลบเงินต้นแบบ 100% ทำให้หนี้ลดลง ช่วยแบ่งเบาภาระให้กับพี่น้องประชาชนไปได้อย่างมาก ขอให้ผู้มาร่วมไกล่เกลี่ยลองคิดคำนวณดูดีๆ
นอกจากนี้เรายังมีศูนย์ไกล่เกลี่ยก่อนฟ้องทั่วประเทศ 1,000 แห่ง ผู้ไกล่เกลี่ยก่อนฟ้อง 3,278 คน และสำนักงานบังคับคดีช่วยไกล่เกลี่ยหลังฟ้อง 117 แห่ง ทั่วประเทศ สำหรับผู้ที่พลาดงานครั้งนี้ แต่จะไม่ได้รับสิทธิพิเศษเหมือนกับการมาร่วมงาน
“งานในวันนี้นอกจากการไกล่เกลี่ยแล้ว เรายังนำหน่วยงานต่างๆ ในกระทรวงมาให้ความรู้และให้ความช่วยเหลือประชาชน เช่น กองทุนยุติธรรมที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนไปแล้ว 3,330 ราย ที่มีทั้งการให้คำปรึกษากฎหมาย การช่วยเหลือค่าธรรมเนียมต่างๆ ในการดำเนินคดีและขึ้นศาล และยังมีการมอบเงินเยียวยา ตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา ซึ่งที่ผ่านมาได้ช่วยเหลือประชาชนไปแล้ว 109,400 คน เป็นเงิน 6,180 ล้านบาท โดยเฉพาะในปี 2565 เราช่วยเยียวยาไป 5,767 ราย เป็นเงิน 292 ล้านบาท สุดท้ายนี้ ผมขอให้งานดังกล่าวนี้เกิดประโยชน์สูงสุด ลดภาวะความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชนที่มาร่วมงานได้ โดยกระทรวงยุติธรรมจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในการดูแลพี่น้องประชาชน” นายสมศักดิ์ กล่าว
จากนั้นนายขจร นายศิริศักดิ์ และนายเกิดโชค ได้มอบเงินเยียวยาผู้เสียหายจากคดีอาญา มอบป้ายศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน และร่วมการไกล่เกลี่ยด้วย โดยรายแรกเป็นหนี้ก่อนฟ้อง กยศ. กู้มา 190,620 บาท ผ่อนชำระมาแล้ว 10 ปี เป็นเงิน 51,300 บาท ผลการเจรจาได้รับส่วนลด 15,020 บาท เหลือ 158,499 บาท และให้ผ่อนอีก 240 งวด ๆ ละ 730 บาท รายต่อมาเป็นหนี้หลังศาลพิพากษาของธนาคารออมสิน เป็นแม่ค้าที่เข้าโครงการแก้ไขหนี้นอกระบบ กู้เงินมา 50,000 บาท แต่ขาดส่งไป 2 ปี จึงถูกฟ้อง โดยหนี้ปัจจุบันเหลือ 36,110 บาท ดอกเบี้ย 20,564 บาท ค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี 6,132 บาท รวมเป็นเงิน 62,806 บาท
ผลการเจรจาธนาคารลดดอกเบี้ย และยกเว้นค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี 100% ลดไปทั้งหมด 25,806 บาท เหลือเจรจราปิดบัญชีที่ 37,000 บาท รายสุดท้ายเป็นหนี้ธนาคารออมสิน กู้เงินมา 40,000 บาท มียอดเงินต้นพร้อมดอกเบี้ย 42,966 บาท ผลการเจรจาธนาคารลดดอกเบี้ยให้ 100% เป็นเงิน 19,966 บาท เจรจาปิดบัญชีที่ 23,000 บาท
โดยทางด้านลูกหนี้ระบุว่า ขอบคุณรัฐบาลและกระทรวงยุติธรรมที่จัดโครงการดีๆแบบนี้เพื่อช่วยเหลือประชาชน พวกเราเป็นแม่ค้าที่หาเช้ากินค่ำ เมื่อได้ลดภาระหนี้ตรงนี้ออกไป ก็จะใช้ชีวิตได้สะดวกขึ้น ไม่ต้องคอยมานั่งเครียดในการหาเงินมาใช้หนี้