+ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่
+ ช่วงวันที่ 13-14 ก.ค. 65 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้
+ ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักบริเวณ จ.ตราด (196 มม.) จ.นครราชสีมา (127 มม.) และ จ.ระนอง (127 มม.)
+ แม่น้ำสายหลัก น้ำน้อยถึงปกติ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนแม่น้ำโขง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
+ ปริมาณน้ำ แหล่งน้ำทุกขนาด 43,888 ล้าน ลบ.ม. (53%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 38,206 ล้าน ลบ.ม. (53%) เฝ้าระวังน้ำน้อย บริเวณภาคเหนือ (3 แห่ง)
กอนช. ติดตามสถานการณ์น้ำหลังประกาศเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก และน้ำท่วมฉับพลัน ฉบับที่ 20/2565 เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับร่องมรสุมเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากส่งผลให้เกิดน้ำหลากและน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ ดังนี้
จ.ชัยภูมิ มีฝนตกหนักในพื้นที่มากกว่า 100 มม. ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังในเขตตัวเมืองชัยภูมิ โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยร่วมกับเทศบาลเมืองชัยภูมิเร่งสูบระบายน้ำออกจากผิวจราจรลงสู่ ลำห้วยเสว และกรมชลประทานได้ติตตั้งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ พร้อมบริหารจัดการน้ำผ่านประตูระบายน้ำด้านเหนือเขตตัวเมือง โดยผันน้ำเลี่ยงเมืองชัยภูมิไปทาง ต.โพนทอง ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว
จ.ระนอง มีฝนตกหนักในพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 7 ก.ค. 65 ส่งผลให้ระดับน้ำในคลองลำเลียงเพิ่มขึ้น เข้าท่วมผิวถนนชุมชนบ้านสองแพรก ต.ลำเลียง อ.กระบุรี ปัจจุบันกรมชลประทานได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเร่งระบายน้ำลงคลองลำเลียง และติดตั้งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่เพิ่มเติมจำนวน 1 เครื่อง โดยคาดกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติภายในวันที่ 13 ก.ค. 65