สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 7 ก.ค. 65

+ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักบางแห่ง

+ ช่วงวันที่ 7-10 ก.ค. 65 ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก

+ ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักบริเวณ จ.น่าน (109 มม.) จ.นราธิวาส (56 มม.) และ จ.อุดรธานี (52 มม.)

+ แม่น้ำสายหลัก น้ำน้อยถึงปกติ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนแม่น้ำโขง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

+ ปริมาณน้ำ แหล่งน้ำทุกขนาด 43,805 ล้าน ลบ.ม. (53%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 38,171 ล้าน ลบ.ม. (53%) เฝ้าระวังน้ำน้อย บริเวณภาคเหนือ (3 แห่ง)

+ วันที่  7 ก.ค. 65 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการลงพื้นที่ จ.กำแพงเพชร เพื่อติดตามการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลในด้านการบริหารจัดการน้ำ การจัดหาแหล่งน้ำ และการเพิ่มพื้นที่ชลประทานของ จ.กำแพงเพชร ณ ฝายชั่วคราวกั้นแม่น้ำปิง (โครงการหนองขวัญ) ต.วังแขม อ.คลองขลุง จ.กําแพงเพชร พร้อมรับทราบปัญหาในแต่ละพื้นที่ และรับฟังข้อมูลจากประชาชนในพื้นที่โดยตรง โดยโครงการฯ สามารถส่งน้ำไปยังพื้นที่รับประโยชน์ในพื้นที่ อ.คลองขลุง อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร และ อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ ได้ประมาณ 101,000 ไร่

+ กอนช. ติดตามโครงการบรรเทาอุทกภัยอำเภอหาดใหญ่ (ระยะที่ 2) จ.สงขลา โดยกรมชลประทานดำเนินการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของคลองระบายน้ำ ร.1 ให้สามารถระบายน้ำได้เพิ่มขึ้นจากเดิม 465 ลบ.ม./วินาที เป็น 1,200 ลบ.ม./วินาที เมื่อรวมการระบายน้ำของคลองอู่ตะเภา 465 ลบ.ม./วินาที ทำให้สามารถระบายน้ำรวมกันได้สูงสุด 1,650ลบ.ม./วินาที ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2565 ทั้งนี้สามารถเก็บกักเป็นแหล่งน้ำสำรองในช่วงฤดูแล้งได้ประมาณ 5 ล้าน ลบ.ม.