กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ขอรายงานสถานการณ์และการบริหารจัดการน้ำ ประจำวันที่ 22 มิถุนายน 2565 ดังนี้

1. ผลการดำเนินงานตามมาตรการรองรับ ฤดูฝน ปี 2565

กรมทรัพยากรน้ำ ดำเนินการตรวจสอบ ซ่อมแซม บำรุงรักษาเครื่องสูบน้ำและอุปกรณ์เครื่องมือเพื่อเตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือบรรเทาปัญหาอุทกภัย ให้กับราษฎรในเขตพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท และสิงห์บุรี

2. สภาพอากาศ

การคาดการณ์สภาพอากาศในช่วงวันที่ 22 – 25 มิ.ย. 65 ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา ตอนบนของภาคเหนือ และประเทศลาวตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักและลมกระโชกแรงบางแห่งส่วนในช่วงวันที่ 26 – 27 มิ.ย. 65 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ด้านรับมรสุมของบริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น

3. แหล่งน้ำทั่วประเทศ

แหล่งน้ำทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำ 44,717 ล้าน ลบ.ม. (54%) แบ่งเป็น แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 38 แห่ง ปริมาณน้ำ 38,993 ล้าน ลบ.ม. (55%) ขนาดกลาง 355 แห่ง ปริมาณน้ำ 3,277 ล้าน ลบ.ม. (60%) และขนาดเล็ก 139,894 แห่ง ปริมาณน้ำ 2,446 ล้าน ลบ.ม. (48%) โดยมีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีปริมาณน้ำต่ำกว่าเกณฑ์เก็บกักต่ำสุด (Lower Rule Curve) ได้แก่ เขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนแม่จาง และอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีปริมาณน้ำสูงกว่าเกณฑ์เก็บกักสูงสุด (Upper Rule Curve) ได้แก่ เขื่อนกิ่วลม เขื่อนกิ่วคอหมา และเขื่อนน้ำพุง

4. สถานการณ์น้ำท่า

สถานการณ์น้ำในแม่น้ำต่าง ๆ อยู่ในเกณฑ์น้ำน้อยถึงปกติ ภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีแนวโน้มลดลง ส่วนภาคกลางและภาคใต้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

5. การบริหารจัดการน้ำ การสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์

สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) และ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ ณ ห้องประชุมตะวัน กังวานพงศ์ ชั้น 4 อาคารยุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เพื่อให้เกิดการประยุกต์ใช้ วิจัย และพัฒนาด้าน เทคโนโลยีสารสนเทศจากคลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ สนับสนุนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเชิงพื้นที่ ทั้งในระดับลุ่มน้ำ จังหวัด ท้องถิ่น และชุมชน รวมทั้งแลกเปลี่ยน เสริมสร้างองค์ความรู้ และพัฒนาศักยภาพ บุคลากรร่วมกัน ให้สามารถนำผลงานมาประยุกต์ใช้ เกิดประโยชน์ สนับสนุนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำด้วยตัวเองอย่างยั่งยืน