ดร.ประเสริฐ ตปนียางกูร เลขาธิการสภาวิศวกร เปิดเผยว่า เพื่อเดินหน้าหนุนวิศวกรรุ่นใหม่ให้ก้าวหน้า มีสมรรถนะในการประกอบวิชาชีพสูงขึ้น แข่งขันในความเป็นมืออาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิผลที่ดี เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานและอุตสาหกรรมภายในประเทศและต่างประเทศ
สภาวิศวกรจึงดำเนินการพัฒนาศักยภาพนักศึกษาและบัณฑิตวิศวกรรมจบใหม่ แบบเข้มข้น เพื่อให้การประกอบวิชาชีพวิศวกรรมในอนาคต สร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมถึงดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมที่ดี โดยการส่งเสริมเพิ่มพูนความรู้ในการเข้าขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมทั้ง 7 สาขา ในระดับภาคีวิศวกร ตลอดจนการเลื่อนระดับสู่สามัญวิศวกร และวุฒิวิศวกร อย่างต่อเนื่อง โดยในระดับภาคีวิศวกร จัดการอบรมเตรียมความพร้อมในด้านกฎหมาย จรรยาบรรณ สิ่งแวดล้อม และความปลอดภัย ในการเข้าขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมในกรุงเทพฯ และสถาบันการศึกษาในต่างจังหวัด ที่มีการเรียนการสอนด้านวิศวกรรม ได้แก่ เชียงใหม่ ขอนแก่น และสงขลา อย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง ก่อนที่จะทำการสอบเพื่อขอรับใบอนุญาต ในส่วนการขอเลื่อนระดับ จัดให้มีการแนะนำวิธีการขอเลื่อนอย่างละเอียด ชัดเจน และปฏิบัติได้ รวมไปถึงการสัมมนาเรื่องเทคโนโลยีวิศวกรรมใหม่ๆ
“ในบทบาทสภาวิศวกรซึ่งมีหน้าที่พิจารณาออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม ใน 7 สาขานี้ บัณฑิตที่จบมาแล้ว หากต้องการขอรับใบอนุญาตดังกล่าวเพื่อไปประกอบวิชาชีพ จะต้องทำการสอบผ่านตามหลักเกณฑ์ของสภาวิศวกร จึงจะได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม และในกระบวนการสอบเลื่อนระดับ ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมจะต้องมีความพร้อม องค์ความรู้ ประสบการณ์ และความชำนาญ เป็นอย่างดี” เลขาธิการสภาวิศวกรกล่าวท้ายสุด
อนึ่ง 7 สาขาวิศวกรรมควบคุม ประกอบด้วย สาขาวิศวกรรมโยธา เครื่องกล ไฟฟ้า อุตสาหการ เหมืองแร่ เคมี และสิ่งแวดล้อม ซึ่งการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของประชาชนได้มาก
—————————————————–