กยท. ชี้! ราคายางปรับฐานตามเศรษฐกิจโลก พร้อมปูมาตรการรองรับ ดูดซับยาง – ชะลอการขาย

นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย เผยว่า ราคาน้ำยางสดในช่วงนี้มีการย่อตัวลงจากปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นช่วงปรับฐานราคา แต่ยังสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยราคาน้ำยางสดเฉลี่ยในช่วงเดือนมิถุนายน 2564 อยู่ที่ 51.59 บาท/กก. ในขณะที่ราคาน้ำยางสดเฉลี่ยเดือนมิถุนายนปีนี้ (1-13 มิ.ย. 65)อยู่ที่ 66.28 บาท/กก. สูงกว่าปีที่แล้วประมาณ 10 บาท/กก. ส่วนสาเหตุที่ราคายางปรับตัวลงต่อเนื่องตั้งแต่วันศุกร์เป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจที่มีการขยายตัวลดลงเพราะค่าเงินเฟ้อที่เกิดขึ้น ทำให้ความต้องการใช้ยางที่มีการชะลอตัว ประกอบกับปริมาณยางใน Stock จีนที่ยังมีอยู่ เพราะมาตรการ Lock Down ที่เข้มงวด การผลิตและบริโภคในจีนจึงน้อยลง

นายณกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กยท. เชื่อว่าราคายางจะคงตัวอยู่ในระดับนี้ในระยะสั้นๆ เนื่องจากยังมีปัจจัยบวกที่ช่วยดันให้ราคายางสูงขึ้นอีกได้ เช่น สภาพอากาศที่ยังคงมีฝนตกในหลายพื้นที่ ผลผลิตยางออกสู่ตลาดน้อยลง ในขณะที่ภาคอุตสาหกรรมการผลิตมีแนวโน้มความต้องการใช้ยางเพิ่มขึ้น ทั้งอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ปัจจุบันกำลังขยายตัวขึ้น

ดังนั้น ความต้องการยางเพื่อผลิตล้อสำหรับรถไฟฟ้าโดยเฉพาะก็เพิ่มขึ้นด้วย และผลจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ส่งผลต่ออุตสาหกรรมถุงมือยางสังเคราะห์ที่มีต้นทุนการผลิตสูงขึ้น เป็นโอกาสดีสำหรับถุงมือยางธรรมชาติที่ตลาดมีความต้องการใช้ทดแทนถึงมือยางสังเคราะห์ ซึ่งจะช่วยให้เกิดการใช้น้ำยางเพิ่มขึ้นในตลาด

ด้าน กยท. มีมาตรการพร้อมรองรับสถานการณ์ ผ่านการดำเนินโครงการชะลอขายยาง เป็นการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางให้สามารถเก็บผลผลิตและขายในช่วงที่ราคาเหมาะสม โดย กยท. ดำเนินโครงการมาอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าสามารถช่วยดูดซับยางออกจากระบบ ได้ถึง 65,000 ตัน นอกจากนี้ กยท. ได้จัดสรรเงินอุดหนุนมาตรา 49(3) ให้สถาบันเกษตรกรฯ สร้างห้องเก็บยางระบบควบคุมความชื้น สามารถยืดอายุการเก็บยางแผ่นรมควัน เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 3 เดือน โดยยางที่จัดเก็บยังมีคุณภาพเหมือนเดิม สามารถช่วยชะลอการขายยางในช่วงที่ราคายางปรับตัวลงได้ ผู้ว่าการ กยท. กล่าว