กรมพัฒนาที่ดิน จัดงานมหกรรมเกษตรอินทรีย์ ปี 2562 “เกษตรอินทรีย์ ดินดีวิถีไทย อาหารปลอดภัย สู่การเกษตรยั่งยืน” ขึ้นในวันที่ 27 – 28 เมษายน 2562 ณ ศูนย์วิจัยการอนุรักษ์ดินและน้ำ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
นางสาวเบญจพร ชาครานนท์ อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน เปิดเผยว่า มหกรรมเกษตรอินทรีย์ ปี 2562 “เกษตรอินทรีย์ ดินดีวิถีไทย อาหารปลอดภัย สู่การเกษตรยั่งยืน” จัดขึ้นเพื่อสร้างโอกาสให้เจ้าหน้าที่ และเกษตรกร ผู้ประกอบการ หน่วยงานภาครัฐ องค์กรภาคเอกชน ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้องค์ความรู้ด้านการผลิต การจัดการผลผลิต การแปรรูป การตลาดและนำไปสู่การขยายผลและผลักดันนโยบายด้านเกษตรอินทรีย์ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงเกษตรกรและประชาชนได้มีความรู้ ความเข้าใจ เรื่องเกษตรอินทรีย์และระบบตลาดที่เป็นธรรม และสร้างความตระหนักในเรื่องของการบริโภคผลผลิต
จากเกษตรอินทรีย์โดยตรง
กิจกรรมภายในงาน วันเสาร์ที่ 27 เมษายน 2562 พบกับการบรรยายพิเศษ เรื่อง “ไทยอีสานกับตลาดทางเลือกสินค้าเกษตรอินทรีย์” โดยมี CEO รังสิตฟาร์ม เป็นวิทยากร พร้อมทั้งดำเนินการเสวนาหัวข้อ “ตีแผ่คัมภีร์…เคล็ดลับสู่เกษตรอินทรีย์วิถีไทย” ผู้เข้าร่วมเสวนาได้แก่ 1.กลุ่มปลูกฮัก ยโสธรโมเดล 2.สหกรณ์เกษตรอินทรีย์ทัพไทย จังหวัดสุรินทร์ 3.ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรบุรีรัมย์
กรมวิชาการเกษตร 4.ผู้แทนมูลนิธิสังคมสุขใจ 5.Top’s market ทั้งยังมีตัวแทนเกษตรกรจาก 4 จังหวัด จำนวน 250 คน เข้าศึกษาดูงานเกษตรอินทรีย์ สวนผักปากช่อง และดับเบิ้ลยูบี ออร์แกนิค ฟาร์ม
(WB Organic Farm) พร้อมชมนิทรรศการเกษตรอินทรีย์ เรื่อง “ยุทธศาสตร์เกษตรอินทรีย์” “มาตรฐานเกษตรอินทรีย์” “โซนนิ่งเกษตรอินทรีย์” “แอพพลิเคชันเกษตรอินทรีย์” “ผลสำเร็จของการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ ” “สมัชชาความร่วมมือทรัพยากรดินแห่งประเทศไทย” และนิทรรศการมีชีวิต “สวนสืบสานศาสตร์พระราชา” … สำหรับวันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน 2562 เป็นพิธีเปิดงานมหกรรมเกษตรอินทรีย์ ปี 2562 “เกษตรอินทรีย์ ดินดีวิถีไทย อาหารปลอดภัย สู่การเกษตรยั่งยืน” และชวนชาวอีสาน ร่วมประกาศปฏิญญาสมัชชาความร่วมมือทรัพยากรดินแห่งประเทศไทย ซึ่งได้รับเกียรติจาก นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงาน
ทั้งนี้ยังมีการเสวนา (โสเหล่) หัวข้อ “กลยุทธ์…ปักหมุดพื้นที่เกษตรอินทรีย์ 5 ล้านไร่” โดยผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่ดิน (เขต 1 – 12) ดำเนินการเสวนา โดย ดร.สุทธิศักดิ์ แก้วแกมจันทร์ และคณะ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ และยังมีการจัดกิจกรรมวิ่ง “CESRA Country Road Run” วิ่งบนแผ่นดินของพ่อ ชมสวนศาสตร์พระราชา การจัดรูปที่ดินทำกิน “โคก หนอง นา โมเดล” ซึ่งถือว่าเป็นการประชาสัมพันธ์ศูนย์ CESRA ให้เป็นที่รู้จัก ซึ่งจะเห็นได้ว่ามางานนี้ได้ทั้งความรู้มากมายเกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์ ครบเครื่องเรื่องอาหารปลอดภัยหลากหลายชนิด สินค้าเกษตรอินทรีย์ที่ดีต่อสุขภาพ โดยกลุ่มเกษตรกรนำมาจำหน่ายโดยตรงให้กับผู้ร่วมงาน และยังมีการบริการแจกจ่ายผลิตภัณฑ์สารเร่ง พด. และคลินิกเคลื่อนที่รับวิเคราะห์ดินฟรีอีกด้วย
ภายหลังพิธีเปิดงาน นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้บรรยายพิเศษ “แนวทางการขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์สู่อาหารปลอดภัย” กล่าวว่า นโยบายรัฐบาลและนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กำหนดให้การพัฒนาเกษตรอินทรีย์ของประเทศเป็นงานสำคัญที่จะต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนและต่อเนื่อง เนื่องจากเกษตรอินทรีย์เป็นทางเลือกที่มีศักยภาพในการพัฒนาเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน มีความมั่นคงด้านอาหารและความปลอดภัยต่อสุขภาพ ไม่ทำลายธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับกระแสความต้องการผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั้งในและต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตระหนักดีว่าในการขับเคลื่อนการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ให้บรรลุเป้าหมาย อาจสำเร็จลุล่วงไปได้ยาก หากขาดการเชื่อมโยงกับภาคีเครือข่ายอีกหลายภาคส่วน ทั้งในส่วนกลางและระดับพื้นที่ การขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ในพื้นที่ให้เกิดประสิทธิภาพนั้น กลไกสำคัญหลัก คือ การดำเนินงานในระดับจังหวัด ผ่านการสั่งการโดยผู้ว่าราชการจังหวัด ในการประสานเชื่อมโยงบูรณาการทุกภาคส่วนในระดับพื้นที่ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนพัฒนาเกษตรอินทรีย์ให้บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมายยุทธศาสตร์ การพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ พ.ศ. 2560 – 2564
สำหรับการขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์นั้นจะเป็นการยกระดับกลุ่มเกษตรอินทรีย์วิถีพื้นบ้านเพิ่มขึ้น ให้ความสำคัญกับกลุ่มเกษตรอินทรีย์ที่มีความพร้อมเป็นผู้นำต้นแบบในการดำเนินการเพื่อให้อาหารปลอดภัยและได้มาตรฐาน ทั้งนี้ให้ยึดหลัก โดยมีพื้นที่ 7 แห่งเป็นเป้าหมาย ได้แก่ 1.พื้นที่ที่ใกล้โรงพยาบาล 2.พื้นที่ที่ใกล้โรงเรียน 3.พื้นที่ที่ใกล้โรงแรม 4.พื้นที่ คทช. 5.พื้นที่ สปก. 6. พื้นที่ภาคเอกชนที่ร่วมมือกับกลุ่มเกษตรกรทำเกษตรอินทรีย์ และ 7.พื้นที่อื่นๆ ที่แต่ละจังหวัดกำหนดเอง เป็นพื้นที่ที่เกษตรกรมีความพร้อมทำเกษตรอินทรีย์และให้บูรณาการพื้นที่เป้าหมายร่วมกันในพื้นที่ ดังนั้นเพื่อให้การขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ มีความเป็นสำเร็จและเป็นรูปธรรม ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน “สานพลังประชารัฐ” สร้างความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ให้กับภาคเกษตรได้อย่างแท้จริง