กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เดินหน้าพัฒนาศักยภาพครูบัญชีอาสาและเครือข่ายหวังต่อยอดองค์ความรู้ทางบัญชีสู่เกษตรกรและประชาชน สร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจฐานราก

กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ดำเนินงานขับเคลื่อนการนำระบบบัญชีไปวางรากฐานในการสร้างความเข้มแข็งอย่างยั่งยืนให้แก่เกษตรกรและสถาบันเกษตรกร โดยน้อมนำ “หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ตามศาสตร์พระราชา มาเป็นแนวทางปฏิบัติ และสร้างแกนนำเกษตรกร เป็นอาสาสมัครเกษตรด้านบัญชี หรือที่เรียกว่าครูบัญชีอาสา ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ในการเป็นวิทยากรสอนแนะ กระตุ้นการเรียนรู้และสร้างเครือข่ายถ่ายทอดความรู้ด้านการจัดทำบัญชี การใช้ข้อมูลทางบัญชีเพื่อการวางแผนอาชีพ การลดรายจ่าย เพิ่มรายได้สู่เกษตรกรและประชาชนทั่วไป สร้างเครือข่ายถ่ายทอดความรู้แก่เกษตรกรในชุมชนของตนเองในทุกพื้นที่ รวมไปถึงประชาชนและเยาวชนนักเรียน ได้รับการปลูกฝังวินัยในการใช้จ่ายเงิน กระตุ้นให้เกิดการออม ซึ่งจะทำให้เกิดความมั่นคงต่อเสถียรภาพทางการเงินของประเทศอีกทางหนึ่ง

ปัจจุบันกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ มีครูบัญชีอาสาทั่วประเทศ จำนวน ๗,๖๓๖ คน โดยกรมฯ ได้ดำเนินงานส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพครูบัญชีอาสามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ครูบัญชีมีทักษะและองค์ความรู้ด้านบัญชีและการประกอบอาชีพ สามารถถ่ายทอดความรู้ด้านการจัดทำบัญชีและการบริหารจัดการพื้นที่แปลงเกษตรด้วยการนำมิติทางบัญชีมาจำแนก วิเคราะห์ และวางแผนการพัฒนา ทำให้เกิดความสมดุลและยั่งยืนในชีวิต มีการปรับตัวให้ทันกับสภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลง ไม่ยึดติดกับวิธีทำการเกษตรแบบดั้งเดิม โดยผลักดันสู่การเป็น Smart Farming สามารถใช้เทคโนโลยีในการบริหารจัดการการทำการเกษตรและใช้แอปพลิเคชันที่ทันสมัย มาเป็นเครื่องมือช่วยในการวางแผน วิเคราะห์ต้นทุนการดำเนินงาน เพื่อขับเคลื่อนภาคการเกษตรด้วยเทคโนโลยี มุ่งสู่การเป็น Smart Enterprises และ Startups ตามนโยบาย Thailand ๔.๐ โดยมีการดำเนินกิจกรรมทั้งในรูปแบบการลงพื้นที่และการจัดอบรม อาทิ

การจัดอบรมหลักสูตร การพัฒนาอาสาสมัครเกษตรด้านบัญชี ภายใต้โครงการส่งเสริมอาสาสมัครเกษตร ปีงบประมาณ 2565 เพื่อทบทวนความรู้ความเข้าใจให้กับครูบัญชีอาสาในประเด็นสำคัญของหลักการจดบันทึกบัญชีครัวเรือน บัญชีต้นทุนอาชีพและการนำข้อมูลทางบัญชีมาใช้ประโยชน์ อีกทั้งเสริมสร้างความรู้ ทักษะ ในการสร้างและการใช้สื่อการสอนให้กับครูบัญชีอาสา โดยเฉพาะเรื่องเทคนิคการถ่ายทอดความรู้ การโน้มน้าวจูงใจกลุ่มเป้าหมายให้สนใจและเห็นความสำคัญของการทำบัญชี พร้อมทั้งส่งเสริมการใช้แอปพลิเคชัน SmartMe เป็นเครื่องมือบันทึกบัญชีรับ – จ่ายในครัวเรือนและบัญชีต้นทุนอาชีพ ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ผ่าน Smartphone เพื่อให้ครูบัญชีสามารถนำไปถ่ายทอดต่อในระดับพื้นที่ เป็นต้นแบบความสำเร็จให้กับเกษตรกรและคนในชุมชนได้

นอกจากนี้ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้สนับสนุนการสร้างเครือข่ายชมรมครูบัญชีทั้งในระดับภาคและระดับประเทศให้มีความเข้มแข็งและกว้างขวางยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้มีครูบัญชีประจำศูนย์การเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่มีส่วนร่วมในการทำงานและสร้างประโยชน์ให้กับชุมชนของตนเอง ที่สำคัญคือ การยกย่องเชิดชูเกียรติครูบัญชีอาสา โดยกำหนดให้วันที่ ๙ พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวันครูบัญชีอาสา กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เพื่อเป็นเกียรติแก่อาสาสมัครเกษตรด้านบัญชี และเพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ในการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปฏิบัติ

อีกทั้งเป็นก้าวแรกของการยกระดับความสามารถของครูบัญชีอาสาในทุกมิติ ให้สามารถเรียนรู้ทักษะใหม่หรือมีทักษะที่สูงขึ้น (Reskilling) ควบคู่กับการเรียนรู้ด้วยมุมมองใหม่ (Relearning) รวมทั้งเป็นความก้าวหน้าของการถ่ายทอดความรู้ด้านการจัดทำบัญชีอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยพัฒนาทักษะใหม่ ๆ ให้แก่เกษตรกร เยาวชน และประชาชนทั่วไป

ทั้งนี้ กรมฯ ได้เตรียมลงนาม MOU ร่วมกับ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ประมาณปลายเดือนมิถุนายน ๒๕๖๕ เพื่อให้ครูบัญชีอาสา เข้าไปสอนการทำบัญชีให้กลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ชุมชน โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะช่วยคัดเลือกกลุ่มเป้าหมายและสนับสนุนด้านงบประมาณจึงเป็นความร่วมมือที่สำคัญที่จะช่วยขยายผลการส่งเสริมองค์ความรู้ทางบัญชีให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นในทุกชุมชน ผ่านการดำเนินงานของครูบัญชีอาสา เครือข่ายสำคัญของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์.