เลขาฯ ป.ป.ส. เสริมกำลังรบยุทธวิธีขั้นสูงปราบนักค้ายาเสพติด ยกระดับงานยาเสพติดตามนโยบายรัฐบาล

วันพุธที่ 8 มีนาคม 2565 นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกอบรมหลักสูตรเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษ “อินทรีย์ 19” รุ่นที่ 2 พร้อมด้วย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พลตำรวจตรี สมบูรณ์ เทียนขาว ผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ พันตำรวจเอก พิทักษ์ สุทธิกุล รองผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้เชี่ยวชาญสำนักปราบปรามยาเสพติด คณะครูฝึก และผู้เข้ารับ การฝึกอบรม จำนวน 35 นาย ณ อาคารสโมสรกองบินตำรวจ กองบินตำรวจ (รามอินทรา) กรุงเทพมหานคร

นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า “จากสถานการณ์ปัญหายาเสพติดของประเทศไทย ที่พบว่ามีการลักลอบลำเลียงนำเข้ายาเสพติดมาจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าสู่ประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ประกอบกับความเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ในการจับกุมนักค้ายาเสพติด ส่งผลให้กลุ่มนักค้ามีการต่อต้าน การจับกุมของเจ้าหน้าที่มากขึ้น มีการทำงานที่ทวีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงจากการใช้อาวุธต่อสู้ขัดขวางเป็นเหตุให้มีการปะทะหลายครั้ง ทำให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการปราบปรามยาเสพติดมีความเสี่ยงที่จะสูญเสียชีวิต จึงจำเป็นอย่างยิ่งในการยกระดับเจ้าหน้าที่ให้มีทักษะในการใช้อาวุธทางยุทธวิธีขั้นสูง เพื่อประกอบกำลังในการจู่โจมตรวจค้น จับกุม ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด

ชุดปฏิบัติการอินทรีย์ 19 จึงเป็นชุดปฏิบัติการรบพิเศษของสำนักงาน ป.ป.ส . ที่ได้รับการฝึกฝนทางร่างกายให้แข็งแกร่งเน้นการฝึกปฏิบัติทางยุทธวิธีแบบทีมโจมตี การตรวจค้นอาคารทางยุทธวิธี การตรวจค้นยานพาหนะ การจัดทำแผนเผชิญเหตุและแผนการโจมตี การส่งกำลังทางอากาศ (เฮลิคอปเตอร์ จากกองบินตำรวจ)

โดยผู้เข้ารับการฝึกอบรมจะมีความเชี่ยวชาญการใช้อาวุธและยุทธวิธีพิเศษ ตามแนวนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และสอดคล้องตามนโยบายและข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในครั้งการประชุม เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ที่ผ่านมาเพื่อมอบนโยบายและข้อสั่งการในติดตามผลการบังคับใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติดได้เน้นย้ำการปราบปรามยาเสพติด การยกระดับการทำงานของเจ้าหน้าที่โดยเฉพาะด้านปราบปรามยาเสพติด ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

โดยให้มีการระมัดระวังในการใช้อาวุธที่ถูกต้องตามหลักยุทธวิธี เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ อันจะส่งผลให้การทำงานยาเสพติดสัมฤทธิ์ผล สามารถสำเร็จลุล่วง ลดความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนได้”