สธ. ปั้นนักบริหารการแพทย์และสาธารณสุขรุ่นใหม่ มีคุณธรรม จริยธรรม พร้อมใช้เทคโนโลยีในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กระทรวงสาธารณสุข พัฒนาศักยภาพนักบริหารการแพทย์และสาธารณสุข เป็นผู้บริหารรุ่นใหม่ที่มีโลกทัศน์เปิดกว้าง ปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว มีทักษะการทำงานในรูปแบบเครือข่าย ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมคุณธรรม จริยธรรมในการทำงาน เพื่อประชาชนได้รับบริการที่มีคุณภาพ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

วันที่ 6 มิถุนายน 2565 ที่ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย ดร.สุดคนึง ฤทธิ์ฤาชัย ผู้อำนวยการวิทยาลัยนักบริหารสาธารณสุข เปิดการอบรมหลักสูตรนักบริหารการแพทย์และสาธารณสุขระดับสูง รุ่นที่ 38 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565

โดย นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญกับการพัฒนาผู้บริหารระดับสูงรุ่นใหม่ที่มีทักษะความรู้ด้านต่างๆ ตามบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบ สามารถทำงานเป็นเครือข่ายเชื่อมโยงบูรณาการกันภายในองค์กร และประสานความร่วมมือกับผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนในสังคม เพื่อให้การบริหารราชการตามยุทธศาสตร์ของกระทรวงสาธารณสุขบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ ขณะเดียวกันก็เป็นผู้นำในการบริหารจัดการให้บุคลากรในหน่วยงานมีทักษะการปฏิบัติงานด้านสาธารณสุขอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล

โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือประชาชนได้รับบริการที่มีคุณภาพ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ตามปรัชญาและเป้าหมายของหลักสูตร คือ บ่มเพาะ ผู้บริหารรุ่นใหม่” ที่มีโลกทัศน์เปิดกว้าง กระตือรือร้นในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ รู้จักปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว เรียนรู้วิธีคิดเชิงยุทธศาสตร์ วิเคราะห์ภาพกว้างได้ มีวิจารณญาณและความคิดสร้างสรรค์ พร้อมด้วยคุณธรรม จริยธรรม มีทักษะการบริหารในรูปเครือข่ายและบูรณาการ สามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“ขอให้ผู้บริหารยึดหลัก CPR คือ C (Create) : เป็นนักคิดที่ดี , P (Positive) : มองโลกในแง่บวก มองหาโอกาสมากกว่าอุปสรรค และ R (Response Social) : ทำทุกอย่างเพื่อสังคมและประเทศชาติ โดยเฉพาะในยุคที่โลกมีความเปลี่ยนแปลง ขอให้เตรียมตัวเป็นผู้บริหารยุคใหม่ที่ปรับตัวให้ทันโลกตามบริบทต่างๆ อย่างเหมาะสม เกิดความปรารถนาดีต่อผู้อื่น และขอให้ยึดเสมอว่าการทำงานต่างๆ นั้น จะต้องทำเพื่อประโยชน์ต่อผู้อื่นและให้เกิดคุณค่าสูงสุดแก่ประเทศชาติ” นพ.เกียรติภูมิกล่าว

ทั้งนี้ การฝึกอบรมเน้นกิจกรรมที่หลากหลายผสมผสาน มีการเรียนรู้แบบ Interactive Learning การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้เข้ารับการอบรมกับวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายสาขา โดยการอบรมจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 มิถุนายน – 26 สิงหาคม 2565 มีผู้เข้ารับการอบรม ทั้งสิ้น 65 คน จากสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข 52 คน กรมต่าง ๆ 10 คน สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 1 คน สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ 1 คน และองค์การเภสัชกรรม 1 คน

************************************************* 6 มิถุนายน 2565