เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2565 เวลา 13.45 น. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยนายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร้อยตำรวจเอก ปิยะ รักสกุล ผู้อำนวยการกองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน พันตำรวจโท จักรกฤษณ์ วิเศษเขตการณ์ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการพิเศษ ร้อยตำรวจเอก สุรวุฒิ รังไสย ผู้อำนวยการกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วนงานของรัฐ นายมเหสักข์ พันธุ์สง่า ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค นายศุภชัย คำคุ้ม ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษพื้นที่ 8 กรมสอบสวนคดีพิเศษ และนายประกอบ เผ่าพงษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ร่วมกันพบปะผู้เสียหาย ซึ่งเป็นตัวแทนชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ จำกัด ตัวแทนสหกรณ์สมาชิกและเครือข่าย
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า จากที่กระทรวงยุติธรรม ได้รับเรื่องร้องเรียนจากตัวแทนชุมนุมสหกรณ์ฯ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา กรมสอบสวนคดีพิเศษ ใช้เวลาประมาณ 6 เดือน โดยได้สืบสวนสอบสวนจนทราบตัวผู้กระทำความผิด ซึ่งได้รับการยืนยันจากอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และคณะพนักงานสอบสวนแล้วว่า และจะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้กระทำความผิดภายในสิ้นเดือนมิถุนายน การที่ผู้บริหารชุมนุมสหกรณ์ฯ ที่ได้กระทำความผิดในการบริหารเงินจาก 1,200 ล้านบาท และเหลือเพียง 10,000 บาทเศษ นั้น ทำให้สมาชิกมีกำลังใจและมีความเชื่อถือจนโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มสามารถกลับมาดำเนินการเดินเครื่องสกัดน้ำมันปาล์มได้อีกครั้ง ขณะนี้ทราบจากรองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ (นายอนุวรรต โหมดพริ้ง) ว่าชุมนุมสหกรณ์ฯ สามารถดำเนินกิจการได้ จนมีเงินหมุนเวียนกว่า 25 ล้านบาท โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะติดตามทรัพย์ของชุมนุมสหกรณ์นับร้อยล้านบาทกลับมาให้สมาชิกสหกรณ์ และที่ผู้แทนสหกรณ์ฯ ได้เสนอให้ผลักดันออกฎหมายให้มีบทลงโทษ กรณี การจำหน่ายปาล์มอ่อน ปาล์มไม่มีคุณภาพ โดยจะให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ หารือแนวทางการทำงานเรื่องดังกล่าวกับกระทรวงพาณิชย์ สำหรับกรณี ที่พนักงานชุมนุมสหกรณ์ถูกเลิกจ้างไม่ได้รับเงินเดือนและเงินชดเชย รวมทั้งสิ้นประมาณ 60 ล้านบาทเศษ ขอให้กรมส่งเสริมสหกรณ์รับไปหารือเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือฯ กับกระทรวงแรงงาน ต่อไป
นายสมชาย เทพจิตร ประธานกรรมการชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนน้ำมันปาล์มกระบี่ จำกัด กล่าวว่า สืบเนื่องจากท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ใช้อำนาจสั่งการช่วยเหลือชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ จำกัด และเกษตรกรชาวสวนปาล์มที่เป็นสมาชิกแล้ว ขณะนี้ได้รับการยืนยันจากพนักงานสอบสวนคดีพิเศษว่า พบการกระทำความผิดและจะออกหมายจับผู้ที่ร่วมกระทำความผิดแล้ว ฉะนั้น ขอให้รัฐมนตรีฯ ใช้อำนาจดำเนินการต่อทรัพย์ที่เกิดจากกระทำความผิดในคดีอาญาในครั้งนี้ เพื่อนำมาเยียวยาสมาชิก และชุมนุมชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ จำกัด