สวธ.ยกย่องเชิดชูเกียรติ “จ่าสิบเอกทวี บูรณเขตต์” เป็น ศิลปาจารย์ พุทธศักราช ๒๕๖๕

นายชาย นครชัย อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) กระทรวงวัฒนธรรม ตระหนักถึงความสำคัญของศิลปินที่เป็นต้นแบบอันดีงาม เป็นครูผู้เปี่ยมล้นด้วยองค์ความรู้ด้านศิลปวัฒนธรรม และยึดมั่นแนวทางปฏิบัติภารกิจในการธำรงรักษา อนุรักษ์ สืบสาน ถ่ายทอด และสร้างสรรค์พัฒนางานศิลปะและวัฒนธรรมไทย เพื่อมิให้มรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติสูญหาย จึงได้กำหนดให้มีการยกย่องเชิดชูเกียรติศิลปาจารย์ เพื่อเสริมสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ครูศิลป์ ที่มุ่งมั่นอุทิศตนถ่ายทอดองค์ความรู้มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมให้เป็นสาธารณประโยชน์อย่างต่อเนื่อง โดย ศิลปาจารย์ ที่ได้รับการประกาศยกย่องนี้ จะได้รับเงินรางวัล ๑๐๐,๐๐๐ บาท และจะได้เข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานเข็มพร้อมโล่เชิดชูเกียรติ ในโอกาสต่อไป

นายชาย เผยต่อว่า โครงการยกย่องเชิดชูเกียรติ ศิลปาจารย์ นี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติบุคคลผู้อนุรักษ์และสืบสาน ต่อยอดมรดกภูมิปัญญา เป็นครูผู้ถ่ายทอดองค์ความรู้อันเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ หมายรวมถึง ครูศิลป์ ครูช่าง ครูภูมิปัญญาศิลป์ ปราชญ์ท้องถิ่น ซึ่งเป็นผู้มีเชี่ยวชาญในการถ่ายทอด และมีผลงานโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์ ทั้งยังเป็นผู้ที่มีคุณธรรมจริยธรรม มุ่งมั่นถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมไทยให้กับนักเรียน นักศึกษา เยาวชน ชุมชนและประชาชนคนไทย ยึดมั่นในขนบธรรมเนียมและแบบแผนประเพณีไทย อันเป็นเอกลักษณ์ในศาสตร์และศิลป์ของภูมิปัญญาแขนงนั้น ๆ ก่อให้เกิดการอนุรักษ์คุณค่ามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมให้ต่อยอดถึงรุ่นหลังอย่างยั่งยืนสืบไป

โดยรางวัล “ศิลปาจารย์” พุทธศักราช 2565 ได้แก่ จ่าสิบเอกทวี บูรณเขตต์ ผู้ก่อตั้งโรงหล่อบูรณะไทย และ “พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านจ่าทวี” ครูช่างผู้มุ่งมั่นสร้างสรรค์ประติมากรรม “พระพุทธชินราช” จำลองที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงามเหมือนองค์จริงมากที่สุด จนได้รับการยกย่องให้เป็น “เพชรน้ำเอกแห่งวงการช่างศิลป์” โดยได้รับการยกย่องให้เป็นผู้มีผลงานดีเด่นทางด้านวัฒนธรรม สาขาช่างฝีมือ แขนงช่างหล่อ จากสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ เมื่อปี ๒๕๒๖  และยังได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณยกย่อง เป็นครูศิลป์ของแผ่นดิน ประจำปี ๒๕๖๐ ได้รับรางวัลเพชรสยามเมื่อปี ๒๕๖๔ สาขาช่างฝีมือ จากมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ได้รับรางวัลข้าของแผ่นดินด้านการส่งเสริมศาสนาและวัฒนธรรมเมื่อปี ๒๕๖๔ จากสำนักงานเอกลักษณ์ของชาติสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นต้น

ประวัติโดยสังเขป จ่าสิบเอกทวี บูรณเขตต์ เกิดเมื่อวันที่ ๙ ตุลาคม ๒๔๗๕ เป็นชาวจังหวัดพิษณุโลก ในวัยเด็กได้รับการถ่ายทอดวิชาการปั้นจากบิดา ซึ่งเป็นช่างปั้นของวัด เมื่อเติบโตขึ้น ท่านเข้ารับราชการทหารในตำแหน่งช่างเขียน ฝ่ายยุทธโยธา กองทัพภาคที่ ๓ จังหวัดพิษณุโลก ระหว่างนั้น มีโอกาสฝึกงานการหล่อโลหะ  ที่กองหัตถศิลป์ กรมศิลปากร และได้รับการถ่ายทอดวิชาประติมากรรมจากศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี  อาจารย์เขียน ยิ้มศิริ  อาจารย์สนั่น ศิลากร ซึ่งเป็นประติมากรชั้นครู  ต่อมาใน พ.ศ. ๒๕๒๑ ท่านลาออกจากราชการมาประกอบอาชีพช่างหล่อพระพุทธรูป และได้เริ่มบุกเบิกการปั้นหล่อองค์พระพุทธชินราชจำลอง จากความทรงจำที่ได้ไปสักการะอยู่เป็นนิจ ทำให้มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากและได้ก่อตั้งโรงหล่อบูรณะไทย นอกจากนี้ ยังมีผลงานที่สร้างชื่อเสียง ได้แก่ พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช รูปปั้นสมเด็จพระนเรศวรมหาราช หลักศิลาจารึกพระปรมาภิไธย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙

โรงหล่อบูรณะไทย นอกจากจะเป็นสถานที่ประกอบสัมมาชีพของท่านแล้ว ยังเป็นโรงเรียนที่ถ่ายทอดวิชาการปั้นหล่อให้กับชาวบ้านและผู้สนใจเป็นจำนวนมาก จนลูกศิษย์หลายต่อหลายรุ่นได้นำไปประกอบอาชีพหล่อเลี้ยงตนเองและครอบครัว โดยรายได้จากโรงหล่อบูรณะไทยยังเป็นน้ำที่หล่อเลี้ยง “พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านจ่าทวี” ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาอย่างมากเมื่อเทียบกับค่าเข้าชมเพียงหลักสิบบาทต่อคน เพื่อการสร้างประโยชน์ในการเรียนรู้อย่างยั่งยืน ท่านได้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ขึ้น เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๖ ด้วยเจตจำนงในการอนุรักษ์มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมพื้นบ้าน ให้เป็นแหล่งรวบรวมและเรียนรู้ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นของพิษณุโลก และภาคเหนือตอนล่าง  บรรยายให้ความรู้ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น และจัดกิจกรรมเสริมความรู้นอกห้องเรียนให้แก่เด็ก นักเรียน เยาวชน ผู้สนใจทั่วไปอย่างสม่ำเสมอ

ด้วยจิตวิญญาณแห่งการเป็นครูผู้ให้ ยังขยายไปสู่การจัดตั้ง มูลนิธิจ่าสิบเอกทวี – พิมพ์ บูรณเขตต์  ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนทุนการศึกษาให้แก่เด็กยากไร้และขาดโอกาสทางการศึกษา โดยได้มอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษามาอย่างต่อเนื่องทุกปี ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งมูลนิธิเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๕ ท่านได้ดำรงตนอยู่ได้ด้วยสัมมาชีพทางพุทธศิลป์ และนำความเชี่ยวชาญนั้นมาเป็นจุดตั้งต้นแห่งการเป็นครูและการเป็นผู้ให้กับสังคมมาตลอดระยะเวลาอันยาวนานจวบจนปัจจุบัน จ่าสิบเอกทวี  บูรณเขตต์ จึงได้รับการยกย่องให้เป็น ศิลปาจารย์ พุทธศักราช ๒๕๖๕