สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 31 พ.ค. 65

+ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกต่อเนื่อง กับมีฝนตกหนักบางแห่ง

+ ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักบริเวณ จ.ตราด (101 มม.) จ.พังงา (89 มม.) และ จ.เชียงใหม่ (86 มม.)

+ พื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก ดินถล่ม ในช่วง 1-2 วันนี้ บริเวณ อ.กะปง ตะกั่วป่า ตะกั่วทุ่ง ท้ายเหมือง และคุระบุรี จ.พังงา อ.เมือง ละอุ่น กะเปอร์ กระบุรี และสุขสำราญ จ.ระนอง อ.พนม บ้านตาขุน คีรีรัฐนิคม และวิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี

+แม่น้ำสายหลัก น้ำน้อยถึงปกติ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนแม่น้ำโขง มีมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

+ ปริมาณน้ำ แหล่งน้ำทุกขนาด 46,242ล้าน ลบ.ม. (56%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 40,328 ล้าน ลบ.ม. (56%) เฝ้าระวังน้ำน้อย บริเวณภาคเหนือ (2 แห่ง)

+ รัฐบาลโดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มีนโยบายให้การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเป็นภารกิจเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศทั้งระบบ โดยจัดทำแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้ง พร้อมทั้งจัดหาและเพิ่มปริมาณแหล่งน้ำต้นทุนสำหรับภาคการผลิต ทั้งเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมตลอดจนน้ำอุปโภค-บริโภค ให้เพียงพอทุกพื้นที่ เช่น

– การขับเคลื่อนโครงการสำคัญต่าง ๆ ภายใต้แผนบรรเทาอุทกภัยลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมบริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง

– การฟื้นฟูแหล่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ ควบคู่กับพัฒนาเครื่องมือการบริหารจัดการน้ำ ได้แก่ โครงการจัดทำผังน้ำ คลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ ผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน National Thai Water ซึ่งขณะนี้ สทนช. ได้เริ่มแผนปฏิบัติการด้านทรัพยากรน้ำ ผ่านระบบ Thai Water Plan โดยจะเริ่มใช้ระบบจัดทำแผนปฏิบัติการด้านทรัพยากรน้ำ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 เป็นปีแรก

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 3 พ.ค. 65 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ 13 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 2565 และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในช่วงฤดูฝน ปี 2565 เพื่อแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงการเกิดอุทกภัย