นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมลงพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตรวจความพร้อมขั้นตอนการให้บริการและการอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร ตามการผ่อนคลายข้อกำหนดเข้าราชอาณาจักรไทย ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.65 เป็นต้นไป
วันที่ 30 พฤษภาคม 2565 เวลา 14.00 น. นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (รวค.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) เพื่อตรวจความพร้อมการให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารของหน่วยงานต่าง ๆ ใน ทสภ. ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 (ศบค.) ได้ผ่อนคลายข้อกำหนดการเข้าราชอาณาจักรสำหรับผู้เดินทางมาจากต่างประเทศเพิ่มเติม โดยมี นายสราวุธ ทรงศิวิไล รองประธานกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานวิศวกรรมและการก่อสร้าง) คณะผู้บริหาร ทอท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับและรับการตรวจความพร้อม
ในการนี้ รวค. พร้อมคณะฯ ได้ตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อม และกระบวนการให้บริการผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศที่จะเริ่มปฏิบัติตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 โดยเริ่มจากการตรวจจุดคัดกรองด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ จุดตรวจหนังสือเดินทาง และ จุดตรวจศุลกากร จากนั้น รวค. ได้เป็นประธานในการประชุมผ่านระบบ Video Conference ณ ห้องประชุม AOB 1 ชั้น 5 อาคารสำนักงาน ทสภ. โดยรับฟังการบรรยายสรุปความพร้อมของหน่วยงานต่างๆ ประกอบด้วย ทสภ. และท่าอากาศยานภายใต้การกำกับดูแลของ ทอท. อีก 5 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานหาดใหญ่ และท่าอากาศยานภูเก็ต รวมถึงหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย กรมท่าอากาศยาน บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 เป็นต้น
จากนั้นได้เป็นประธานการประชุมหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม และแถลงข่าวผลการตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมฯ ณ ห้องจัดเลี้ยง 1 อาคารสำนักงาน ทสภ.
สำหรับการปฏิบัติงานของ ทสภ. นั้น ทันทีที่ ศบค. ได้มีมติผ่อนคลายข้อกำหนดการเข้าประเทศเพิ่มเติม ทสภ. ได้ร่วมกับ ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (Emergency Operation Center : EOC) ในการซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการคัดกรองตามข้อกำหนดใหม่ เพื่อให้การบริการแก่ผู้โดยสารเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ โดยตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป การเดินทางเข้าประเทศไทยสามารถอธิบายได้ตามภาพอินโฟกราฟฟิก
จากการที่ ศบค. ได้มีมาตรการการผ่อนคลายการเข้าราชอาณาจักรไทย ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 ทสภ. คาดการณ์จำนวนผู้โดยสารและเที่ยวบินจะทยอยปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าในเดือนมิถุนายนจะมีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นในภาพรวมประมาณ 70,000 คนต่อวัน จากประมาณ 64,000 คนต่อวันในเดือนพฤษภาคม แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศร้อยละ 57 และในประเทศร้อยละ 43 ขณะที่จำนวนเที่ยวบินนั้น คาดว่าจะเพิ่มเป็นเฉลี่ยวันละประมาณ 480 เที่ยวบิน จากเฉลี่ยวันละประมาณ 440 เที่ยวบินในเดือนพฤษภาคม แยกเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศร้อยละ 55 และเที่ยวบินในประเทศร้อยละ 45
สำหรับกรณีการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษวานรในต่างประเทศนั้น ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศได้เริ่มดำเนินการกระบวนการคัดกรองผู้เดินทางจากประเทศที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษแล้ว และได้กำหนดขั้นตอนปฏิบัติหากพบผู้โดยสารที่เข้าเกณฑ์ต้องสงสัย การสอบสวนโรค รวมถึงขั้นตอนการส่งต่อผู้โดยสารที่เข้าเกณฑ์ผู้ป่วยไปยังสถาบันบำราศนราดูร โดย ทสภ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมให้การสนับสนุนการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง